He Named Me Malala “เด็กหนึ่งคน ครูหนึ่งคน หนังสือหนึ่งเล่มกับปากกาหนึ่งด้าม เปลี่ยนแปลงโลกได้ทั้งใบ” นี่คือคำกล่าวที่จะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ไปอย่างสิ้นเชิง เพราะจากคำพูดเสียงเล็กๆ ของเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆ คนหนึ่ง สู่เสียงที่มาจากปากคนทั่วโลก เพื่อปกป้องผู้หญิงที่ถูกกดให้อยู่ในมุมหนึ่งของสังคมอันเต็มไปด้วยการกดขี่ผู้หญิง และเสียงนั้นมาจากเธอ มาลาลา ยูซาฟไซ ซึ่งหนังเรื่องนี้เป็นหนังแนวสารคดีเรื่อง He Named Me Malala ที่จะมาประกาศให้คนทั้งโลกได้รับรู้ว่า รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่ถูกมอบให้กับผู้หญิงที่อายุน้อยที่สุดสำหรับรางวัลโนเบลด้วยวัยเพียง 17 ปี นั้นไม่ได้ง่ายเลยกว่าคนทั้งโลกจะยอมรับเธอ และผู้สร้างหนังสารคดีชื่อดังอย่าง ดาวิส กักเกนเฮม กำลังจะบอกให้คนทั้งโลกหันมาฟังเธอบ้าง
โดยหนังเรื่อง He Named Me Malala นั้นเป็นสารคดีอัตชีวประวัติของ มาลาลา ยูซาฟไซ เด็กสาวชาวปากีสถานที่ต้องต่อสู้เผชิญอยู่กับการปิดกั้นทางเพศ เต็มไปด้วยการกดขี่ให้ผู้หญิงปากีสถานไม่มีสิทธิ์เรียนหนังสือ แต่เพราะเธอมีพ่อผู้ซึ่งคอยช่วยหนุนให้ Malala ต่อสู้และเรียกร้องความถูกต้องยุติธรรมต่อการกดขี่ทางเพศของรัฐบาลตาลีบัน และด้วยความเจิดจรัสของเธอสุดท้ายเธอก็ถูกสั่งฆ่าเพื่อให้จบเรื่องราวเหล่านั้นจากตาลีบัน แต่แทนที่เรื่องราวมันจะจบตามความต้องการของเหล่าผู้กดขี่ และเพราะเธอยังไม่ตาย เสียงอันเล็กน้อยของเธอกลายเป็นเสียงที่ยิ่งใหญ่ และขยายเป็นวงกว้างจากปากต่อปาก จากภาพที่แพร่หลาย และจากหัวใจนักสู้ของเธอ มาลาลา ยูซาฟไซ
ซึ่งหนังเรื่อง He Named Me Malala นี้ จัดว่าเป็นหนังแนวสารคดีที่ควรค่าแก่การได้ชมเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะเป็นการบอกถึงใครสักคนที่อยากจะจุดประกายความหวัง กำลังใจ และความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะศัตรูที่ยิ่งใหญ่ ศัตรูที่เราก็รู้ว่าถ้าเพียงแค่ลำพังเราคนเดียวก็คงจะไม่มีทางเอาชนะได้เป็นแน่แท้ แต่ในหนังเรื่องนี้ได้แสดงให้เห็นว่าต่อให้คู่ต่อสู้ของเธอคือตาลีบัน กลุ่มก่อการร้ายอันดับหนึ่งของโลก ที่หลายรัฐบาลทั่วโลกต่างก็ต้องคิดหนัก เธอก็ไม่มีวันถอย และสารคดีนี้ได้ถูกกล่าวถึงความตั้งใจของผู้สร้างที่ต้องการถ่ายทอดความจริงของสังคมแห่งการกดขี่ออกมาผ่านเสียงของ มาลาลา ยูซาฟไซ และครอบครัว จนทำให้หนังเรื่องนี้ถูกจัดอันดับเป็นหนังน่าดูอันดับต้นๆ ได้อย่างสบายๆ ร่วมติดตามชมเรื่องราวเหล่านี้ได้ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2558 นี้