มิเชลล์ โหย่ว กลับมาบัญชาการจักรวาลอีกครั้ง ใน Star Trek: Section 31

มิเชลล์ โหย่ว กลับมาบัญชาการจักรวาลอีกครั้ง ใน Star Trek: Section 31

เตรียมพบกับภารกิจครั้งใหม่ของจักรพรรดินีฟิลิปปา จอร์จิโอ (รับบทโดย มิเชลล์ โหย่ว) ใน *Star Trek: Section 31* ภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์เรื่องแรกของ Star Trek ที่จะฉายเฉพาะบน Paramount+ วันที่ 24 มกราคม 2025 จากเทรลเลอร์ที่ปล่อยออกมา เราได้เห็นจอร์จิโอ อดีตผู้ปกครองจักรวรรดิจากมิติอื่น มาใช้ชีวิตเรียบง่ายด้วยการเปิดไนต์คลับบนสถานีอวกาศ แต่ชะตากรรมของจักรวาลกลับพาเธอกลับมาสู่สนามรบอีกครั้ง

เมื่อสหพันธรัฐเผชิญกับภัยคุกคามครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา พันล้านชีวิตกำลังตกอยู่ในอันตราย จอร์จิโอจึงตัดสินใจรับภารกิจสุดท้าย และเพื่อความสำเร็จ เธอต้องการทีมที่แข็งแกร่ง ทีมนี้ประกอบด้วย อโลก ซาฮาร์ (โอมาลี่ ฮาร์ดวิค) ผู้วางแผนหลัก ควาซี่ (แซม ริชาร์ดสัน) ผู้แปลงโฉมได้ เมลล์ (ฮัมเบอร์ลี่ กอนซาเลซ) ผู้มีพลังจิต เซฟ (รอป คาซินสกี้) กล้ามเนื้อชีวกล ฟัซซ์ (สเวน รอยโกรค) วัลแคน (หรือโรมูลัน) ผู้มีอารมณ์ร้อน และเรเชล การ์เร็ตต์ (เคซีย์ โรห์ล) ตัวแทนสตาร์ฟลีท และกัปตันอนาคตของเอนเตอร์ไพรส์ ผู้รับหน้าที่ “ดูแลไม่ให้ใครฆ่ากัน” งานนี้บอกเลยว่าไม่ง่าย เพราะเทรลเลอร์ยังเผยให้เห็นฉากการต่อสู้ในอวกาศ การไล่ล่าสุดระทึก และไซบอร์กจอมโหดอีกด้วย

ผลงานการกำกับของ โอลาตุนเด โอซุนซานมี และบทภาพยนตร์โดย เครก สวีนีย์ *Star Trek: Section 31* ไม่ใช่แค่การผจญภัยในอวกาศ แต่ยังเป็นการเปิดเผยความลับของ Section 31 หน่วยงานลับของสตาร์ฟลีทที่มีอำนาจเหนือกว่ากฎหมาย เพื่อปกป้องสหพันธรัฐ เช่นเดียวกับที่ปรากฏใน *Star Trek: Deep Space Nine* พวกเขาพร้อมจะใช้มาตรการสุดขั้วเพื่อปกป้องจักรวาล แม้จะหมายถึงการละเมิดหลักการของสหพันธรัฐเองก็ตาม

และที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่า เทรลเลอร์ยังเผยให้เห็นเผ่าพันธุ์เอเลี่ยนที่ไม่ได้ปรากฏตัวใน Star Trek มาแล้วกว่าห้าสิบปี นั่นคือ เชอรอน เผ่าพันธุ์ที่มีลักษณะพิเศษคือผิวครึ่งขาวครึ่งดำ จากตอน “Let That Be Your Last Battlefield” ซึ่งเป็นเหมือนคำเปรียบเทียบเรื่องการเหยียดสีผิว การปรากฏตัวของพวกเขาในครั้งนี้ ยิ่งเพิ่มความลึกลับและน่าค้นหาให้กับเรื่องราว เตรียมพบกับการกลับมาของจักรพรรดินีผู้ทรงอำนาจ และภารกิจที่อาจเปลี่ยนแปลงชะตาของจักรวาลได้ บน Paramount+ วันที่ 24 มกราคม 2025

ที่มา : collider.com

ก่อนหน้า เวโนม: การเต้นรำครั้งสุดท้าย สิ้นสุดบทในโรงภาพยนตร์ ก่อนก้าวสู่โลกดิจิทัล
ถัดไป เรื่องหลอนกำลังจะลา Netflix: รีบดู “Scary Stories to Tell in the Dark” ก่อนหายไป!