ผู้กำกับแอนิเมชันชื่อดัง แบร์รี เจนกินส์ ตอบโต้เหล่าผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดีย หลังจากได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการกำกับภาพยนตร์ “มูฟาซ่า: เดอะไลอ้อนคิง” ซึ่งเป็นภาคต่อของภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชัน “เดอะไลอ้อนคิง” ในปี 2019 โดยเจนกินส์ชี้แจงว่า ภาพยนตร์เรื่องใหม่นี้ไม่ใช่ “ของไร้วิญญาณ” แต่มีเป้าหมายที่จะมอบประสบการณ์ทรงพลังให้แก่ผู้ชมทั่วโลก อีกทั้งยังยืนยันความทุ่มเทในการเล่าเรื่องราวที่เหนือกว่าเป้าหมายทางการเงิน
ขณะเดียวกัน เจนกินส์ยังเผยว่า ตนทำงานในหลายโปรเจ็กต์พร้อมกัน รวมถึง “มูฟาซ่า” โดยชี้ว่างานทั้งหมดล้วนเต็มไปด้วยหัวใจและไม่ใช่เพื่อแสวงหาผลกำไรเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม แฟนๆ ยังคงวิพากษ์วิจารณ์คุณภาพของ CGI ในตัวอย่างภาพยนตร์ “มูฟาซ่า” อย่างไรก็ตาม เจนกินส์ยังยืนกรานปกป้องวิสัยทัศน์สร้างสรรค์ของตน และภาพยนตร์มีกำหนดเข้าฉายในปี 2024
*ย่อหน้าสุดท้าย:**
การตอบโต้ของเจนกินส์ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้องปกป้องการทำงานร่วมกับดิสนีย์ในการสร้างภาคก่อนและภาคต่อของ “เดอะไลอ้อนคิง” ก่อนหน้านี้ เขาได้พูดคุยกับนิตยสาร Empire ถึงความกังวลของแฟนๆ ว่า วิสัยทัศน์สร้างสรรค์และเอกลักษณ์ของเขาจะหายไปท่ามกลางแรงจูงใจด้านการค้าของดิสนีย์ เจนกินส์กล่าวว่า “เมื่อคุณก้าวเข้าสู่โลกที่มีอยู่แล้ว อาจเป็นเรื่องง่ายที่จะคิดว่าอิสรภาพนั้นถูกปฏิเสธ ผมคิดว่าแทนที่อย่างนั้น คุณต้องทำงานเพื่อสร้างอิสรภาพ และผมคิดว่านี่คือกระบวนการ เพื่อนคนหนึ่งเคยพูดกับผมว่า ‘คุณทำให้สิ่งที่คุณตั้งใจทำสำเร็จแล้ว เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี คุณสามารถวางภาพยนตร์ไว้บนผนังแล้วชี้ไปที่มันแล้วพูดว่า ‘นั่นคือที่ที่ผมอยู่'”
ที่มา : movieweb.com