Tomb Raider (2018) ทูม เรเดอร์ ดูหนังเรื่องนี้ได้ผู้กำกับสัญชาตินอร์เวย์ ที่เคยฝากผลงานไว้ในปี 2016 ชื่อเรื่อง The Wave มหาวิบัติสึนามิถล่มโลก ในครั้งนี้เขาก็ย้ายมากำกับหนังทางฝั่นฮอลลีวูดกันบ้างใน Tomb Raider 2018: Becoming Lara Croft โดยดูหนังเรื่องนี้จะเป็นการ Reboots สร้างแบรนด์ใหม่ให้กับ Lara Croft เชื่อว่าหลายคนจะยังคุ้นกับบทของ Lara Croft ในปี 2001 กับ 2003 ที่ “แอนเจลีนา โจลี” รับบทไว้ ถึงแม้ว่าในแง่ของรายได้จะไม่ได้ถล่มถลายมากมาย แต่ว่า โจลี ในบทบาทนี้ก็กลายเป็นที่จดจำ และนักแสดงที่เข้ามารับใหม่ก็คือ Alicia Vikander ถือว่าเป้นงานหนักพอสมควร แต่เธอมีดีกรีระดับนักแสดงรางวัลออสก้า
เรื่องย่อ
หนัง Tomb Raider ฉบับปี 2018 จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ Lara Croft หญิงสาวที่ปฏิเสษมรดกมหาศาลจากพ่อของเธอ และเลือกเดินบนเส้นทางคนธรรมดา แต่วันหนึ่งเธอก็พบกับเบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับพ่อของเธอ เธอจะตัดสินใจไปยังเกาะยามาไต ที่เป็นที่ตั้งของ “แม่มรณะ” หวังว่าจะหยุดแผนร้ายขององกรคื Trinity เธอจะสามารถช่วยเผ่าพันธ์มนุษย์ชาติได้หรือไม่ ติดตามได้โดยดูหนังเรื่องนี้
ความแตกต่างระหว่าง Tomb Raider เวอร์ชั่นเก่ากับใหม่
จะจุดที่แตกต่างกันเล็กน้อยคือ Lara Croft ในฉบับ โจลี เธอได้รับมรดกมากมาย บ้านของเธอใหญ่ระดับปราสาทของ “บรูซ เวย์น” กันเลยทีเดียว แต่ในฉบับของ Alicia Vikander เธอตัดสินใจไม่รับมรดกและมาทำงานเป็น messenger ต่อมาเธอถึงได้รับการอะไรบางอย่างที่ทำเธอเริ่มต้นการผจญภัย
หนังเรื่องนี้เป็นต้นกำเนิดของ Lara Croft
Alicia บอกว่าหนังเรื่อง Tomb Raider 2018 นี้เป็นหนังต้นกำเนิดของตัวละคร Lara Croft เป็นการเดินทางจากผู้หญิงคนหนึ่งกลายเป็น “ทูม เรเดอร์” ได้อย่างไร การเล่า Origin Story ก็น่าสนใจเช่นกัน แต่ก็น่ากังวลเช่นกันเพราะในตัวอย่าง เขาเล่าถึงองกรค์ใหญ่ที่หวังทำลายโลก และ Lara Croft จะเป็นคนกอบกู้โลกเอาไว้ ไม่แน่ใจว่าผู้กำกับจะรับมือกับความยิ่งใหญ่แบบนี้ได้ไหม เพราะเนื้อเรื่องจะกว้างมาก
สิ่งที่ชอบกับการดูหนัง Tomb Raider
คือฉากแอ็คชั่น เพราะมันให้อารมณ์เหมือนเกมเช่นกัน หากใครเคยเล่นเกม Rise of the Tomb Raider ก็คงจะคุ้นกับฉากบางฉากในตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมาบาง เพราะผู้กำกับอาจจงใจให้บางฉากเหมือนกับเกมแบบเป๊ะๆเลย ไม่ว่าจะเป็นฉากน้ำตก หรือฉากเครื่องบิน หวังว่าหนังจะจัดเต็มกับฉากแอ็คชั่นหนักๆ เท่าที่หนังจะทำได้