The Huntsman: Winter’s War เหตุผลเพราะว่าภาคแรกที่ฉายในปี 2012 นั้นทำเงินได้พอสมควร ทำให้เกิดภาคแยกออกมาและพร้อมจะเข้าฉายในปี 2016 นี้ โดยใช้ชื่อว่า The Huntsman ดูหนังที่เป็นภาคแยกของ Snow White and the Huntsman ที่หลายๆคนชอบในความแปลกและเข้มข้นของหนัง และในที่สุดทาง Universal Pictures ก็ได้ประกาศยืนยันวันฉายอย่างเป็นทางการของหนังเต็มเรื่อง The Huntsman เป็นที่เรียบร้อย นั่นก็คือเดือนเมษายน ปี 2016 นั่นเอง โดยในส่วนของนักแสดงชายอย่าง Chris Hemsworth และ Charlize Theron นั้นได้รับการยืนยันว่ามาปรากฏโฉมแน่นอน แต่แฟนๆของ Snow White อาจจะผิดหวัง หนังแอ็คชั่นแฟนตาซี หนังภาคต่อ Snow White and The huntsman ในภาคแรกสามารถทำรายได้ได้อบย่างน่าพอใจ และบริษัทผู้สร้างมีโครงการจะสร้างภาคต่อทันที แต่มาสะดุดด้วยข่าวอื้อฉาวของตัวนางเอกและผู้กำกับ จนต้องพับโครงการไว้ แต่แล้วเมื่อทุกอย่างคลี่คลายลง ทางทีมงานผู้สร้างได้ลงมือการทำภาคต่อในทันที แน่นอนว่านักแสดงนำยังอยู่เกือบครบ พร้อมนักแสดงใหม่ที่เข้ามาสมทบ โดยมีนักแสดงสาวสวย อย่าง ชาริส เธอร์รอน เอมิลี่ บลั้นท์ คริส แฮมเวิร์ธ และ เจสิการ์ แชสแทน ในครั้งนี้ ดิสนีย์ พิคเจอร์ไม่ได้เป็นผู้สร้างอย่างที่หลายคนคาดไว้ ซึ่งผู้สร้างคือยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ โดยมีสุดยอดทีมงานผู้สร้างจาก Maleficent, Alice In The Wonderland กำกับโดย เซนดริค นิโคลัส-โทรยาน ถือว่าคุ้มค่ามากกับดูหนังแฟนตาซี ที่มีนักแสดงนำเป็นดาราระดับแม่เหล็กของวงการ และเทคนิคการมช้ CG สร้างฉากที่อลังการ ราวกับว่าได้หลุดไปสู่ดินแดนอันงดงาม ทางค่ายยูนิเวอร์แซลสตูดิโอผู้ผลิตหนังเรื่องดังมากมายหลายเรื่องก็ไม่ยอมน้อยหน้าเช่นเดียวกัน สำหรับในปี 2016 นี้ได้ส่งหนังภาคต่อของเรื่อง “Snow white and the huntsman สโนว์ไวน์และพรานป่า” มาในครั้งนี้มาในชื่อของ “The huntsman winter’s war พรานป่าและราชินีน้ำแข็ง” หนังแนวแอ็คชันแฟนตาซีซึ่งเป็นเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นระหว่างพรานป่าหนุ่มกับนักรบสาวที่ต้องรวบรวมกำลังพลเพื่อเข้าไปสู้รบกับราชินีน้ำแข็งและราชินีชั่วร้ายซึ่งเป็นพี่สาวของราชินีน้ำแข็ง ในภาคนี้จะเป็นเรื่องราวก่อนที่พรานป่าจะได้ไปเจอกับสโนไวน์นั่นเอง งานนี้ทางค่ายหนังอย่างยูนิเวอร์แซลสตูดิโอมีหรือจะไม่อลังการงานสร้างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคัดเลือกนักแสดงนำที่ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายหลายท่านมาร่วมงานด้วย เรื่องของชุดนักแสดงที่ดูสวยสง่าและเหมาะสมกับกับตัวละครเป็นอย่างยิ่งนับว่างานนี้ทีมคอสตูมทำออกมาได้ดีสมแล้วกับที่เป็นยูนิเวอร์แซล แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้ก็คงจะเป็นการปล่อยภาพโปสเตอร์สวยๆ ให้ออกมาได้ชมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งทั้งสวยและหล่อกันแบบสุดๆ จนแฟนๆ อยากจะกดปุ่มวาปให้ไปถึงวันเข้าฉายจริงเสียแล้ว หนังเรื่องนี้ยังได้โปรดิวเซอร์ผู้สร้างหนังเรื่องเมลิฟิเซนต์และอลิสอินวันเดอแลนด์มาร่วมงานในครั้งนี้อีกด้วยนั่นยิ่งเป็นการการันตีถึงความสนุกสนานของเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดีงานนี้ยังถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนชุดโปรดิวเซอร์ใหม่แบบยกทีม สำหรับกำหนดการเข้าฉายในประเทศไทยนั้นจะเข้าฉายอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 เมษายน 2016 นี้หากสงกรานต์นี้คุณยังไม่รู้จะไปทำอะไรที่ไหน มาชมหนังเรื่องนี้สิคะแล้วคุณจะพบกับความตื่นเต้นในการต่อสู้ของพรานป่าและราชินีทั้งสอง แล้วมาลุ้นกันว่าสงครามนี้จะจบลงอย่างไร พรานป่าจะสามารถยับยั้งแผนการชั่วร้ายของทั้งสองราชินีได้หรือไม่ต้องมาติดตามดูกันได้ในทุกโรงหนังก่อนหน้านั้น Snow White and The Huntsman เคยทำให้ผู้ชมตื่นตาตื่นใจกับการจับเทพนิยายที่เคยสวยงามมาแปลงเป็นบทหนังที่เต็มไปด้วยความเป็นแฟนตาซี พาเราผจญภัยไปด้วยความสนุกสนาน ดุเดือด แอ็คชั่นสุดมันส์ ได้อย่างน่าประทับใจ มาปีนี้แฟนหนังจะได้ชมเรื่องราวก่อนที่ The Hunts Man จะพบกับ Snow White โดยยังคงได้ คริส เฮมส์เวิร์ธมารับบทนายพรานหนุ่มร่างกำยำ ขวัญใจสาวๆทั่วโลก ภายใต้การกำกับของเซดริก-นิโคลัส-โทรยัน ที่จะพาคนดูไปสัมผัสกับความสนุกสนานนั้นอีกครั้งหนึ่ง
ทางค่ายยูนิเวอร์แซลสตูดิโอผู้ผลิตหนังเรื่องดังมากมายหลายเรื่องก็ไม่ยอมน้อยหน้าเช่นเดียวกัน สำหรับในปี 2016 นี้ได้ส่งหนังภาคต่อของเรื่อง “Snow white and the huntsman สโนว์ไวน์และพรานป่า” มาในครั้งนี้มาในชื่อของ “The huntsman winter’s war พรานป่าและราชินีน้ำแข็ง” หนังแนวแอ็คชันแฟนตาซีซึ่งเป็นเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นระหว่างพรานป่าหนุ่มกับนักรบสาวที่ต้องรวบรวมกำลังพลเพื่อเข้าไปสู้รบกับราชินีน้ำแข็งและราชินีชั่วร้ายซึ่งเป็นพี่สาวของราชินีน้ำแข็ง ในภาคนี้จะเป็นเรื่องราวก่อนที่พรานป่าจะได้ไปเจอกับสโนไวน์นั่นเอง งานนี้ทางค่ายหนังอย่างยูนิเวอร์แซลสตูดิโอมีหรือจะไม่อลังการงานสร้างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคัดเลือกนักแสดงนำที่ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายหลายท่านมาร่วมงานด้วย เรื่องของชุดนักแสดงที่ดูสวยสง่าและเหมาะสมกับกับตัวละครเป็นอย่างยิ่งนับว่างานนี้ทีมคอสตูมทำออกมาได้ดีสมแล้วกับที่เป็นยูนิเวอร์แซล แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้ก็คงจะเป็นการปล่อยภาพโปสเตอร์สวยๆ ให้ออกมาได้ชมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งทั้งสวยและหล่อกันแบบสุดๆ จนแฟนๆ อยากจะกดปุ่มวาปให้ไปถึงวันเข้าฉายจริงเสียแล้ว หนังเรื่องนี้ยังได้โปรดิวเซอร์ผู้สร้างหนังเรื่องเมลิฟิเซนต์และอลิสอินวันเดอแลนด์มาร่วมงานในครั้งนี้อีกด้วยนั่นยิ่งเป็นการการันตีถึงความสนุกสนานของเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดีงานนี้ยังถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนชุดโปรดิวเซอร์ใหม่แบบยกทีม สำหรับกำหนดการเข้าฉายในประเทศไทยนั้นจะเข้าฉายอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 เมษายน 2016 นี้หากสงกรานต์นี้คุณยังไม่รู้จะไปทำอะไรที่ไหน มาชมหนังเรื่องนี้สิคะแล้วคุณจะพบกับความตื่นเต้นในการต่อสู้ของพรานป่าและราชินีทั้งสอง แล้วมาลุ้นกันว่าสงครามนี้จะจบลงอย่างไร พรานป่าจะสามารถยับยั้งแผนการชั่วร้ายของทั้งสองราชินีได้หรือไม่ต้องมาติดตามดูกันได้ในทุกโรงหนัง
เรื่องย่อของ The Huntsman: Winter’s War
เอริคพรานหนุ่มก่อนที่เขาจะได้พบกับสโนไวท์ เมื่อแผ่นดินของเขาจะเกิดการแย่งชิงอำนาจของสองราชินี หนึ่งคือราชินีน้ำแข็งผู้ถูกโค่นอำนาจจากพี่สาวจนสูญสิ้นศรัทธาในความรัก อีกหนึ่งคือราชินีราเวนน่า ผู้ที่ไม่เคยสนใจใคร และทำให้ราชินีเฟรย่าเกิดบาดแผลขึ้นในใจ เฟรย่ารวบรวมกำลังพล ที่รวมไปถึงเอริคและนักรบสาวอย่างซาร่า พร้อมพลังความเย็นยะเยือกที่อยู่ภายในจิตใจ เพื่อจะกลับมาทวงบัลลังก์คืนจากราชินีราเวนน่าให้ได้ เมื่อนั้นสงครามแห่งความมันส์ที่สุดจะตื่นตาตื่นใจก็อุบัติขึ้นทันที เพราะหากการทวงคืนบัลลังก์ไม่เป็นผลสำเร็จ ความชั่วร้ายอย่างราชินีราเวนน่าก็จะปกคลุมที่นี่ไปตลอดกาล การถูกทรยศหักหลังเรื่องความรัก สร้างความเจ็บปวดและความแค้นให้แก่ราชินีหิมะนามว่า เฟรยา เป็นอย่างมาก เธอจึงตัดสินใจหนีออกนอกเมือง และไปสร้างอาณาจักรที่ไกลแสนไกลของตัวเอง เพราะความแค้นนี้เธอจึงออกกฎเหล็ก ห้ามทุกคนในการปกครองของเธอมีความรัก ในขณะเดียวกันเธอได้สร้างกองทัพนายพรานขึ้นมา เพื่อทำการสู้รบและล้างแค้นให้กับตัวเองในเวลาอันใกล้ แอริค และ ซาร่า หนึ่งในนักรบในกองทัพพบรักกัน ทั้งสองต่างมีใจต่อกัน ถึงแม้จะรู้ว่าได้ละเมิดกฎอันเข้มงวดของราชินีหิมะ แต่ความรักมิอาจห้ามได้ ทั้งสองจึงพากันหลบหนีออกมาจากวังหิมะอันห่างไกลผู้คน เมื่อราชินีหิมะทราบข่าวร้ายว่า ราชินีราเวนาพี่สาวได้เสียชีวิตลง จากการการต่อสู้กับสโนวไวท์ เมื่อทราบดังนั้นแล้ว เธอจึงบัญชาให้กองทัพอันแข็งแกร่งนำกระจกวิเศษมาที่อาณาจักรของเธอ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะชุบชีวิตพี่สาวด้วยสีทองในกระจก และหวังจะสร้างความยิ่งใหญ่อีกครั้งด้วยพลังอำนาจของกระจกวิเศษ เมื่อการชุบชีวิตสำเร็จ ราชินีราเวดาฟื้นคืนชีพ ทั้งสองพี่น้องมีพลังมากพอที่จะครอบครองในทุกอาณาจักรและสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คน พร้อมด้วยกองทัพ Huntsman อันโหดร้ายที่พร้อมรบทุกเมื่อ มีเพียงแอริคและซาร่าเท่านั้นที่จะหยุดยั้งความชั่วร้ายนี้ได้
หากจะพูดถึงหนังที่สร้างมาจากนิทานแล้วละก็ใครๆ ก็คงนึกถึงค่ายหนังดังอย่างวอลท์ดิสนีย์อย่างแน่นอนแต่สำหรับหนังเรื่อง “Snow White and the Huntsman” อาจเป็นเรื่องเดียวเลยก็ว่าได้ที่ถูกค่ายหนังอย่างค่ายยูนิเวอแซลสตูดิโอนำมาสร้างและได้รับกระแสการตอบรับที่ดีมากและทำรายได้ไปอย่างมหาศาลทำให้ทางยูนิเวอแซลจึงขอสร้างภาคต่อเอาใจแฟนๆ ด้วยการสร้างเรื่อง “The huntsman winter’s war” ซึ่งในตอนแรกทางค่ายหนังตั้งใจที่จะสร้างเรื่อง “Snow White and the Huntsman2” แต่ด้วยกรณีการเกิดข่าวอื้อฉาวที่ดังไปทั่วฮอลลิวูดที่เกิดขึ้นภายในกองถ่ายทำหนังเรื่องนี้ระหว่างนางเอกสาว จ. กับผู้กำกับ นาย ว. ที่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวจนเป็นเหตุให้นางเอกสาวคนนี้ต้องเลิกรากับแฟนหนุ่มในวงการไปและนั่นก็ส่งผลให้ทางค่ายหนังเห็นควรให้มีการเปลี่ยนตัวนักแสดงนำอย่างสโนว์ไวท์โดยให้ตัดบทนี้ออกไปเลยในภาคนี้และเปลี่ยนตัวผู้กำกับคนใหม่ทำให้งานนี้จึงได้ผู้กำกับคนใหม่ คือ นาย ต และอยู่ในการกำกับดูเลของโปรดิวเซอร์คนเก่งอย่าง นาย พ ที่เคยสร้างผลงานการกำกับในเรื่องอลิสอินวันเดอร์แลนด์และมาเลอฟิเซนต์ที่โด่งดังมาร่วมดูแลกำกับหนังเรื่องนี้ด้วย ในหนังเรื่องนี้ยังคงได้นักแสดงนำชายสุดหล่ออย่าง นาย ก ซึ่งโด่งดังมาจากหนังเรื่อง “ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า” แถมยังครองตำแหน่ง “ชายที่มีความเซ็กซี่มากที่สุดประจำปี 2014” ที่ได้รับผลโหวตจากนิตยสารชื่อดังอย่าง People มาแสดงร่วมกับนักแสดงสาวสวยสามท่านของวงการฮอลลิวูดเรียกว่างานนี้นำเอาตัวพ่อตัวแม่ของวงการฮอลลิวูดมาประชันฝีมือกันเลยทีเดียว บอกเลยว่างานนี้หนังฟอร์มยักษ์นี้น่าติดตามมากจริงๆ เราต้องมาลุ้นกันแล้วว่าหนังเรื่องนี้จะสามารถทำรายได้ทำลายสถิติหนังที่สร้างจากนิทานแซงเจ้าวงการอย่างวอลท์ดิสนีย์ไปได้หรือไม่ มาลุ้นไปด้วยกันเมษายนนี้เจอกันอย่างแน่นอน… The huntsman winter’s war
หากใครยังจดจำหนังเรื่อง “สโนว์ไวท์แอนท์เดอะฮันท์แมน” ที่เข้าฉายเมื่อปี 2012 ได้คงจำได้ดีสำหรับนักแสดงนำสาวสวยอย่างที่รับบทเป็นสโนไวท์ในเรื่องนี้และยังโด่งดังมาจากหนังเรื่อง แวมไพร์ทไวไลท์ ซึ่งจากเรื่องนี้เองก็ทำให้เธอได้พบรักกับพระเอกหนุ่มในเรื่องอย่างระหว่างที่พวกเขากำลังคบหากันอยู่นั้นเธอก็ได้มาร่วมแสดงในหนังเรื่อง “สโนว์ไวท์แอนท์เดอะฮันท์แมน2” แต่ในระหว่างการถ่ายทำเธอเกิดมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับผู้กำกับในเรื่องจนเป็นเหตุทำให้เธอและแฟนหนุ่มต้องเลิกรากันไปซึ่งทางค่ายหนังอย่างยูนิเวอแซลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจจึงได้ทำการเปลี่ยนแปลงบทใหม่ทั้งหมดจากเดิมที่เคยเน้นไปที่ตัวละครอย่างสโนไวท์ก็เปลี่ยนมาเป็นเน้นไปที่ตัวละครหลักอย่างพรานหนุ่มแทนซึ่งรับบทโดย นาย ล แถมที่สำคัญยังมีคำสั่งเปลี่ยนตัวผู้กำกับหนังเรื่องนี้เป็น ที่เคยกำกับหนังอย่างไพเรทออฟเดอะคาริเบียนมาแล้วมาแทนที่ทำให้ส่งผลกระทบต่อชื่อเรื่องของหนังและกลายมาเป็น “เดอะ ฮันท์แมน วินเทอร์วอร์” ในปัจจุบัน แต่เชื่อว่าแม้จะมีการเปลี่ยนบทไปบ้างก็ตาม แต่เนื้อเรื่องในภาคนี้ย่อมยังคงสนุกและน่าตื่นเต้นตามสไตล์ของยูนิเวอแซลสตูดิโออย่างแน่นอน สำหรับหนังเรื่องนี้มีกำหนดฉายอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยเป็นวันที่ 6 เมษายนนี้ แฟนๆ ที่รอชมหนังเรื่องนี้รออีกไม่นานแล้วนะคะก็จะได้ชมกันแล้ว แล้วเจอกันได้ในทุกโรงหนัง
นอกจากจะได้นักแสดงเดิมอย่างชาลิซ เทอรอน และคริส เฮมส์เวิร์ธมาเรียกเรตติ้งแล้ว ยังได้โปรดิวเซอร์จาก Maleficent รวมไปถึงผู้กำกับที่เคยมีผลงานโด่งดังอย่าง Pirate of the Caribbean มาแล้วมานั่งแท่นกำกับ ตามตัวอย่างยังเชื่อได้ว่างานด้านภาพนั้นจะต้องเว่อร์วังและดีงามไม่แพ้ภาคแรกที่ทำไว้อย่างอลังกาลแน่นอน ทั้งฉากในป่า ปราสาท หรือวัง ทำได้สมจริง ยิ่งใหญ่มากทีเดียว ส่วนเรื่องการแสดงนั้นไว้วางใจได้อย่างแน่นอน ซึ่งถือว่าสองข้อแรกนั้นผ่านฉลุย ไม่เพียงเท่านั้น ที่น่าสนใจอีกอย่างคือบทที่เราจะได้รับชมกันในเรื่อง เชื่อว่าถ้าใครได้ดูภาคที่แล้วคงต้องยอมรับว่าราชินีราเวนน่าเป็นอะไรที่ช่างชั่วร้ายได้อย่างสวยงามจริงๆ เพราะฉะนั้นเมื่อเราจะย้อนไปดูอีกจุดเริ่มต้นของความชั่วร้าย ก็เชื่อว่าน่าจะเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆเลยทีเดียว แถมตัวละครอย่างเอริคเองก็มีมิติและจัดว่าเป็นตัวละครชายหนุ่มที่น่าค้นหามากทีเดียว งานนี้ใครที่เบื่ออากาศร้อน อยากจะลองเข้าป่าไปสัมผัสกับราชินีหิมะ และช่วยนายพรานหนุ่มกับนักรบสาวต่อการกับอธรรม ก็ดูจะน่าตื่นเต้นไม่น้อยนะ
หากใครยังจดจำหนังเรื่อง “สโนว์ไวท์แอนท์เดอะฮันท์แมน” ที่เข้าฉายเมื่อปี 2012 ได้คงจำได้ดีสำหรับนักแสดงนำสาวสวยอย่างนางสาว ม. ที่รับบทเป็นสโนไวท์ในเรื่องนี้และยังโด่งดังมาจากหนังเรื่อง แวมไพร์ทไวไลท์ ซึ่งจากเรื่องนี้เองก็ทำให้เธอได้พบรักกับพระเอกหนุ่มในเรื่องอย่าง นาย ค ระหว่างที่พวกเขากำลังคบหากันอยู่นั้นเธอก็ได้มาร่วมแสดงในหนังเรื่อง “สโนว์ไวท์แอนท์เดอะฮันท์แมน2” แต่ในระหว่างการถ่ายทำเธอเกิดมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับผู้กำกับในเรื่องจนเป็นเหตุทำให้เธอและแฟนหนุ่มต้องเลิกรากันไปซึ่งทางค่ายหนังอย่างยูนิเวอแซลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจจึงได้ทำการเปลี่ยนแปลงบทใหม่ทั้งหมดจากเดิมที่เคยเน้นไปที่ตัวละครอย่างสโนไวท์ก็เปลี่ยนมาเป็นเน้นไปที่ตัวละครหลักอย่างพรานหนุ่มแทนซึ่งรับบทโดย นาย ล แถมที่สำคัญยังมีคำสั่งเปลี่ยนตัวผู้กำกับหนังเรื่องนี้เป็น นาย ฟ ที่เคยกำกับหนังอย่างไพเรทออฟเดอะคาริเบียนมาแล้วมาแทนที่ทำให้ส่งผลกระทบต่อชื่อเรื่องของหนังและกลายมาเป็น “เดอะ ฮันท์แมน วินเทอร์วอร์” ในปัจจุบัน แต่เชื่อว่าแม้จะมีการเปลี่ยนบทไปบ้างก็ตาม แต่เนื้อเรื่องในภาคนี้ย่อมยังคงสนุกและน่าตื่นเต้นตามสไตล์ของยูนิเวอแซลสตูดิโออย่างแน่นอน สำหรับหนังเรื่องนี้มีกำหนดฉายอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยเป็นวันที่ 6 เมษายนนี้ แฟนๆ ที่รอชมหนังเรื่องนี้รออีกไม่นานแล้วนะคะก็จะได้ชมกันแล้ว แล้วเจอกันได้ในทุกโรงหนัง
หากจะพูดถึงหนังที่สร้างมาจากนิทานแล้วละก็ใครๆ ก็คงนึกถึงค่ายหนังดังอย่างวอลท์ดิสนีย์อย่างแน่นอนแต่สำหรับหนังเรื่อง “Snow White and the Huntsman” อาจเป็นเรื่องเดียวเลยก็ว่าได้ที่ถูกค่ายหนังอย่างค่ายยูนิเวอแซลสตูดิโอนำมาสร้างและได้รับกระแสการตอบรับที่ดีมากและทำรายได้ไปอย่างมหาศาลทำให้ทางยูนิเวอแซลจึงขอสร้างภาคต่อเอาใจแฟนๆ ด้วยการสร้างเรื่อง “The huntsman winter’s war” ซึ่งในตอนแรกทางค่ายหนังตั้งใจที่จะสร้างเรื่อง “Snow White and the Huntsman2” แต่ด้วยกรณีการเกิดข่าวอื้อฉาวที่ดังไปทั่วฮอลลิวูดที่เกิดขึ้นภายในกองถ่ายทำหนังเรื่องนี้ระหว่างกับผู้กำกับที่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวจนเป็นเหตุให้นางเอกสาวคนนี้ต้องเลิกรากับแฟนหนุ่มในวงการไปและนั่นก็ส่งผลให้ทางค่ายหนังเห็นควรให้มีการเปลี่ยนตัวนักแสดงนำอย่างสโนว์ไวท์โดยให้ตัดบทนี้ออกไปเลยในภาคนี้และเปลี่ยนตัวผู้กำกับคนใหม่ทำให้งานนี้จึงได้ผู้กำกับคนใหม่ คือ และอยู่ในการกำกับดูเลของโปรดิวเซอร์คนเก่งอย่าง ที่เคยสร้างผลงานการกำกับในเรื่องอลิสอินวันเดอร์แลนด์และมาเลอฟิเซนต์ที่โด่งดังมาร่วมดูแลกำกับหนังเรื่องนี้ด้วย ในหนังเรื่องนี้ยังคงได้นักแสดงนำชายสุดหล่ออย่าง นาย ก ซึ่งโด่งดังมาจากหนังเรื่อง “ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า” แถมยังครองตำแหน่ง “ชายที่มีความเซ็กซี่มากที่สุดประจำปี 2014” ที่ได้รับผลโหวตจากนิตยสารชื่อดังอย่าง People มาแสดงร่วมกับนักแสดงสาวสวยสามท่านของวงการฮอลลิวูดเรียกว่างานนี้นำเอาตัวพ่อตัวแม่ของวงการฮอลลิวูดมาประชันฝีมือกันเลยทีเดียว บอกเลยว่างานนี้หนังฟอร์มยักษ์นี้น่าติดตามมากจริงๆ เราต้องมาลุ้นกันแล้วว่าหนังเรื่องนี้จะสามารถทำรายได้ทำลายสถิติหนังที่สร้างจากนิทานแซงเจ้าวงการอย่างวอลท์ดิสนีย์ไปได้หรือไม่ มาลุ้นไปด้วยกันเมษายนนี้เจอกันอย่างแน่นอน… The huntsman winter’s warเหตุผลเพราะว่าบทดูหนังเรื่องนี้ที่ใช้คนเขียนบทหลายคนนั้นจะเล่าถึงก่อนที่นายพรานหนุ่มจะมาพบกับสโนไวท์ นั่นย่อมจะไม่มีสโนไวท์ปรากฏโฉมในเต็มเรื่อง หรืออีกนัยหนึ่งก็แปลได้ว่าไม่มีบทของ Kristen Stewart ในหนังภาคแยกเรื่องนี้นั่นเอง แต่ผู้กำกับอย่าง เซดริค นิโคลัส-โทรยัน ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งเวทมนตร์และเอฟเฟคต่างๆ ก็ยังเชื่อมั่นในศักยภาพของดูหนังว่าจะมีผู้ชมให้การต้อนรับมาอย่างดี เทพนิยายที่เคยได้ยินมาอาจไม่เป็นอย่างนั้นอีกต่อไป มาเอาใจช่วยพระเอก-นางเอก ต่อสู้กับความชั่วร้ายของพี่น้องราชินีทั้งสอง ที่เคลือบแฝงไว้ด้วยความงดงาม เพียงได้ชมฉากที่งดงามตระการตา และการแสดงอันน่าประทับใจของนักแสดงเพียงเท่านี้ ก็จะรู้ว่าช่วงเวลาเกือบ2ชั่วโมงนั้น คุ้มค่ากับความสนุกตี่นเต้นที่ได้รับจริงๆ เพราะแค่ภาพใบปิดที่พร้อมออกมานั้นก็สวยมากแล้ว และด้วยความที่ภาคแรกนั้นดูเหมือนว่าอรรถรสที่ผู้ชมได้รับนั้นค่อนข้างแปลกและสนุก มันส์และเท่ห์ จึงทำให้ผู้ชมที่ที่เบื่อเทพนิยายเดิมๆ นางเอกหน่อมแน้มและพระเอกหล่อสะอาด ก็ยังจะตั้งหน้าตั้งตารอดู The Huntsman กันอย่างใจจดใจจ่อว่าเทพนิยายที่เคยสวยงามนั้น จะถูกเขียนแยกร่างออกมาได้ดุเดือดเผ็ดมันส์และถึงใจแค่ไหน เอาเป็นว่าปี 2016 นี้รู้กัน