...
โปสเตอร์หนัง SpongeBob Movie: Search for SquarePants
7 / 10

SpongeBob Movie: Search for SquarePants

ผู้กำกับ Derek Drymon
นักแสดงนำ
  • Clancy Brown
  • Bill Fagerbakke
  • Tom Kenny
ประเภท
เข้าฉาย

เรื่องย่อ

เมื่อเจ้าฟองน้ำอยากอัปเกรดตัวเองเป็น "Big Guy" ภารกิจดำดิ่งสู่ก้นบึ้งมหาสมุทรเพื่อตามหาผีโจรสลัด Flying Dutchman จึงเริ่มขึ้น! The SpongeBob Movie: Search for SquarePants จะพาคุณไปไขความลับในอดีตของ Mr. Krabs ที่มีชะตากรรมของ Bikini Bottom เป็นเดิมพัน พบกับการผจญภัยครั้งใหม่ในรูปแบบ 3D CG สุดล้ำ พร้อมการปะทะบทบาทเสียงพากย์ระดับตำนานอย่าง Mark Hamill ที่แฟนตัวจริงห้ามพลาด

เอาจริงๆ นะ… ใครจะไปคิดว่าเจ้าฟองน้ำสีเหลืองใส่กางเกงทรงเหลี่ยมที่หัวเราะเสียงกวนประสาท จะยังครองใจคนดูมาได้ยาวนานขนาดนี้? คือเราเห็น SpongeBob มาตั้งแต่สมัยทีวีจอตู้ จนตอนนี้โลกมันหมุนไปไกลมาก แต่แฟรนไชส์นี้ก็ยังหาทางแทรกตัวเข้ามาอยู่ในป๊อปคัลเจอร์ได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมีม (Meme) หรือความบ้าบอที่ผู้ใหญ่ดูแล้วเก็ทมากกว่าเด็กซะอีก

การกลับมาครั้งนี้ใน The SpongeBob Movie: Search for SquarePants ไม่ใช่แค่การเอาตัวละครเดิมมาวิ่งไล่จับกันเฉยๆ แต่มันมีกลิ่นอายของ “ความทะเยอทะยาน” บางอย่างจากทีมสร้าง โดยเฉพาะข่าวลือเรื่องการแคสติ้งเสียงพากย์ระดับตำนานอย่าง “Mark Hamill” มาเป็นตัวร้ายหลัก ซึ่งแค่ได้ยินชื่อ Luke Skywalker มาพากย์เสียงผีโจรสลัด ผมว่าแฟนหนังรุ่นเก๋าก็หูผึ่งกันแล้วล่ะครับ งานนี้มันต้องมีอะไรมากกว่าแค่การ์ตูนเด็กตื่นเช้าแน่นอน

H2: เรื่องย่อ The SpongeBob Movie: Search for SquarePants ฉบับคนวงใน

ใครอ่านชื่อเรื่องแล้วนึกว่า SpongeBob หายตัวไปแล้วเพื่อนๆ ออกตามหา… ผิดถนัดครับ! คำว่า “Search for SquarePants” ในที่นี้ มันคือการค้นหา “ตัวตนข้างใน” ต่างหาก (ลึกซึ้งไปอีก)

เรื่องของเรื่องคือ เจ้า SpongeBob ของเราเกิดอาการ Crisis อยากจะอัปเกรดตัวเองเป็น “ผู้ใหญ่” หรือที่ในหนังเรียกว่า “Big Guy” เพื่อพิสูจน์ความเจ๋งให้ Mr. Krabs ยอมรับ แต่วิธีพิสูจน์ของพี่แกดันเล่นใหญ่เกินเบอร์ ด้วยการตัดสินใจออกเดินทางไปยังส่วนที่ลึกที่สุดและอันตรายที่สุดของมหาสมุทร เพื่อเผชิญหน้ากับตำนานที่น่ากลัวที่สุดอย่าง “The Flying Dutchman” (ผีโจรสลัดสีเขียวที่เราคุ้นตานั่นแหละ แต่ภาคนี้เฮี้ยนกว่าเดิม)

สิ่งที่น่าสนใจคือ การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ความฮา แต่มันเป็นการขุดปมในอดีตระหว่าง Mr. Krabs กับ Dutchman ขึ้นมาด้วย ว่าทำไมเจ้าปูงกเงินถึงได้กลัวผีตนนี้จนหัวหด งานนี้ SpongeBob และผองเพื่อนจาก Bikini Bottom เลยต้องเจอกับปริศนาคำสาป และความวายป่วงที่เดิมพันด้วยจิตวิญญาณ… ฟังดูเครียดนะ แต่เชื่อเถอะว่าภาพตัดมาทีไรก็คงมีแต่เรื่องปวดหัว (ในทางที่ดี) แน่นอน

H2: วิเคราะห์ความน่าดูของ The SpongeBob Movie: Search for SquarePants ทำไมต้องตีตั๋ว?

จุดขายแรกที่เตะตาผมมาก คือ “งานภาพ” ครับ ภาคนี้ทีมงานเขาใช้เทคนิค 3D CG แบบเต็มรูปแบบ แต่! เขาพยายามจูนแสงและเงาให้มันยังดูแบนๆ มีเสน่ห์แบบการ์ตูน 2D ต้นฉบับ คือมันดูมีมิติขึ้น ลึกขึ้น แสงสวยแบบภาพยนตร์ แต่ไม่ทิ้งลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ ถ้าใครวางแผนจะไป ดูหนัง เรื่องนี้ ผมเชียร์ให้เลือกรอบที่จอใหญ่ๆ หรือระบบเสียงดีๆ เพราะงาน Art Direction ยุคหลังของ Nickelodeon เขาไม่ธรรมดาจริงๆ

อีกจุดคือการดึง Ice Spice แร็ปเปอร์สาวสุดฮอตมาร่วมแจมทั้งเสียงพากย์และเพลงประกอบ มันแสดงให้เห็นว่าหนังพยายามจะ Connect กับ Gen Z และวัยรุ่นยุคใหม่ ไม่ใช่แค่หากินกับแฟนคลับรุ่นเก่าอย่างเดียว การผสมผสานความคลาสสิกของตัวละครยุค 90s เข้ากับไวบ์ดนตรีและมุกตลกยุคปัจจุบัน น่าจะทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นโปรแกรม ดูหนัง ข้ามปีที่ดูกันได้ทั้งแก๊งเพื่อนและครอบครัวแบบไม่เคว้ง

และที่มองข้ามไม่ได้คือ Mark Hamill ในบท Flying Dutchman ครับ การเอาคนที่พากย์ Joker (Animated Series) ได้จิตหลุดขนาดนั้นมาพากย์ผีโจรสลัด มันการันตีได้เลยว่าเราจะได้เห็น Villain ที่มีความ “ดาร์ก” และ “บ้าคลั่ง” แบบ เต็มเรื่อง ไม่มีกั๊ก ซึ่งน่าจะมาตัดเลี่ยนความสดใสของ SpongeBob ได้อย่างลงตัว

SpongeBob Movie: Search for SquarePants - ONLYGROUB

H2: เจาะลึกเกร็ดเบื้องหลัง The SpongeBob Movie: Search for SquarePants ที่คุณอาจไม่เคยรู้

มาถึงพาร์ทที่ผมชอบที่สุด คือการขุดข้อมูลมาเล่าให้ฟังกัน ภาคนี้มีเบื้องหลังที่น่าสนใจจนผมต้องร้อง “เฮ้ย จริงดิ?” อยู่หลายเรื่องเลยครับ

  1. กฎเหล็ก “ต้องขำกันเองก่อน”: Derek Drymon ผู้กำกับ (ซึ่งเป็นลูกหม้อเก่าของซีรีส์ SpongeBob) เปิดเผยว่า บทหนังภาคนี้เขียนขึ้นด้วยกฎเหล็กข้อเดียวคือ “ทีมเขียนบทต้องหัวเราะกันเองในห้องประชุมก่อน” ถึงจะผ่านได้ เขาไม่ได้พยายามเขียนมุกเพื่อเอาใจเด็กทั่วโลกในทันที แต่หยิบเอา “ปมในวัยเด็ก” ของทีมงานแต่ละคนมาขยี้ เช่น ความรู้สึกอยากโตเป็นผู้ใหญ่เร็วๆ หรือความกลัวผีแบบไร้เหตุผล แล้วค่อยแปลงมันเป็นสถานการณ์ในหนัง นี่คือเหตุผลว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงดู SpongeBob แล้วอิน เพราะมันคือเรื่องจริงที่ถูกเล่าผ่านฟองน้ำนั่นเอง
  2. ภารกิจปั้นผีให้ “น่ากลัว” แต่ไม่ “หลอน”: ความท้าทายที่สุดของทีม Art คือตัวละคร Flying Dutchman ครับ ในเวอร์ชันทีวีแกดูตลกๆ รั่วๆ แต่ในหนังภาคนี้ โจทย์คือต้องทำให้ Mr. Krabs เคยกลัวจน “ช็อกหมดสติ” ในอดีตให้ได้ ทีมงานเลยต้องดีไซน์ความน่ากลัวใหม่ ให้ดูมีพลังอำนาจคุกคามจริงๆ แต่ต้องบาลานซ์ไม่ให้เด็กในโรงร้องไห้จ้า ซึ่ง Drymon บอกว่ายากมากในการหาจุดสมดุลนี้ (รอดูในโรงเลยว่าจะออกมาท่าไหน)
  3. ความซับซ้อนของ 3D ที่แกล้งทำเป็น 2D: คุณอาจจะคิดว่าทำ CG สมัยนี้ง่าย… ผิดครับ! ทีมงานบ่นอุบเลยว่าการทำโมเดล 3D ให้ขยับและรับแสงเงาเหมือนการ์ตูน 2D (Toon Shading) ของ SpongeBob เป็นงานหินสุดๆ เพราะดีไซน์ดั้งเดิมมันมีความยืดหยุ่นสูงมาก (Squash and Stretch) เวลาเอามาทำเป็นโมเดลแข็งๆ แล้วต้องบิดเบี้ยวตามอารมณ์ตัวละคร ทีมงานต้องเขียนโปรแกรม Shader ขึ้นมาใหม่เฉพาะกิจ เพื่อให้เราได้เสพงานภาพที่เนียนตาแบบ เต็มเรื่อง โดยไม่รู้สึกว่า “มันดูปลอม”
  4. จักรวาลเต่านินจาโผล่มาแจม?: มีข่าวแว่วมาว่าในบางประเทศ (และอาจรวมถึงไทย) หนังเรื่องนี้จะฉายควบกับหนังสั้น Teenage Mutant Ninja Turtles: Chrome Alone 2 ซึ่งเป็นจักรวาลของ Paramount เหมือนกัน แฟนบอยฝั่งอเมริกาเลยเก็งข้อสอบกันว่า ในตัวหนัง SpongeBob เอง อาจจะมี Easter Egg หรือ Cameo เล็กๆ ของพวกเต่านินจาซ่อนอยู่ตามฉากหลัง หรือกราฟิกกวนๆ ช่วงเครดิต ใครตาดีๆ ก็เตรียมจ้องจับผิดกันได้เลย

FAQ: คำถามคาใจก่อนไปดู The SpongeBob Movie: Search for SquarePants

  • Q: ไม่เคยดูภาคก่อนๆ หรือไม่ได้ตามซีรีส์มานาน จะดูรู้เรื่องไหม?
    • A: ดูรู้เรื่องสบายมากครับ หนัง SpongeBob ออกแบบมาเป็น Standalone อยู่แล้ว พล็อตภาคนี้เน้นภารกิจใหม่ ไม่ได้ต่อเรื่องราวค้างคาจากภาค Sponge on the Run (2020) แค่รู็จักว่าใครเป็นฟองน้ำ ใครเป็นปลาดาว ก็สนุกได้เลย
  • Q: เหมาะจะพาเด็กเล็กไปดูไหม? มีฉากไม่เหมาะสมหรือเปล่า?
    • A: เรตติ้งสากลคือ PG (Parental Guidance) ครับ คือเด็กดูได้ แต่ผู้ปกครองควรแนะนำ เนื้อหาหลักๆ ใสสะอาด แต่สไตล์ SpongeBob มักจะมีความรุนแรงแบบการ์ตูน (ระเบิดตูมตาม, ตัวแบนแต๊ดแต๋) และมุกตลกสองแง่สองง่าม (Innuendo) ที่ผู้ใหญ่ขำแต่เด็กอาจจะงง ไม่มีฉากน่ากลัวเลือดสาดแน่นอน
  • Q: มี End Credit ให้รอลุ้นไหม?
    • A: จากสถิติหนังค่ายนี้ มักจะไม่ค่อยมีฉากสำคัญๆ แบบปูไปภาคต่อท้ายเครดิตเท่าไหร่ แต่มักจะมีภาพกราฟิกน่ารักๆ หรือมุกแถมเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างเครดิตขึ้น ถ้าไม่ได้รีบไปไหน นั่งฟังเพลงประกอบเพลินๆ แอร์เย็นๆ ต่ออีกสักนิดก็ไม่เสียหายครับ

ใครที่กำลังมองหาโปรแกรมผ่อนคลายช่วงสิ้นปี จะไปดูกับแฟนขำๆ หรือพาครอบครัวไปฮา ก็จัดว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ สำหรับข้อมูลรอบฉายและดีลตั๋วหนังเด็ดๆ แวะมาเช็กกันต่อได้ที่ onlygroub.com พื้นที่ของคนรักหนังตัวจริง แล้วเจอกันในโรงครับ!

สิ่งที่น่าจับตามองที่สุดในภาคนี้ไม่ใช่แค่ความตลกโปกฮา แต่คืองานคราฟต์ด้าน Visual ที่ทีมสร้างตั้งใจ “รีดีไซน์” ใหม่หมดจด การนำเสนอใน The SpongeBob Movie: Search for SquarePants เลือกใช้เทคนิค 3D CG ที่ให้แสงเงาสมจริงระดับภาพยนตร์ แต่ยังดัดจริต (ในทางที่ดี) รักษากฎฟิสิกส์เพี้ยนๆ แบบการ์ตูน 2D เอาไว้ ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวดูยืดหยุ่น มีชีวิตชีวา และไม่ทิ้งลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิม

นอกจากนี้ การบาลานซ์โทนเรื่องยังเป็นจุดแข็งสำคัญ โดยเฉพาะการดึง Mark Hamill มาให้เสียง Flying Dutchman เพื่อสร้างความ “น่ากลัว” ที่มีมิติ ตัดกับความใสซื่อของ SpongeBob ได้อย่างลงตัว นี่ไม่ใช่แค่หนังเด็กดูขำๆ แต่เป็นงานศิลปะที่ผ่านการคิดมาอย่างละเอียด เพื่อให้คนดูทุกวัยสัมผัสความ “ลึก” ของเนื้อหาและงานภาพได้พร้อมกัน

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

Seraphinite AcceleratorOptimized by Seraphinite Accelerator
Turns on site high speed to be attractive for people and search engines.