...
โปสเตอร์หนัง นากรักมาก ม๊ากมาก
6.2 / 10

นากรักมาก ม๊ากมาก

ผู้กำกับ ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข
นักแสดงนำ
  • โหน่ง ชะชะช่า
  • นริลญา กุลมงคลเพชร
  • พีรวัส แสงโพธิรัตน์
ประเภท
เข้าฉาย

เรื่องย่อ

ถ้าคุณคิดว่าตำนานแม่นากถูกเล่าจนช้ำแล้ว นากรักมาก ม๊ากมาก จะทำให้คุณต้องคิดใหม่ เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อ "ปื๊ด" (โหน่ง ชะชะช่า) ผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรง (แต่ฝีมือต้องลุ้น) แท็กทีมกับ "อังเคิล" (เท่ง เถิดเทิง) ผู้ช่วยคู่ใจ หวังปั้นหนังรีเมค "แม่นาก" ให้สะเทือนวงการ แต่ความวายป่วงบังเกิดเมื่อ แม่นากตัวจริง (ญดา นริลญา) ไม่ได้มาปรากฏตัวเพื่อหักคอใคร แต่มาเพื่อ "แคสติ้ง" รับบทเป็นตัวเอง! เพราะเธอต้องการใกล้ชิดกับ "คริส" (คริส พีรวัส) ซุปตาร์หนุ่มที่เธอมั่นใจว่าเป็นพี่มากกลับชาติมาเกิด ใครที่อยาก ดูหนัง เรื่องนี้แบบ เต็มเรื่อง เตรียมพบกับความโกลาหลในกองถ่ายที่ "คน" กับ "ผี" ต้องทำงานร่วมกัน เมื่อนากไม่ได้มาเพื่อหลอก แต่มาเพื่อปกป้องพล็อตเรื่องความรักของเธอ และต้องทำคะแนนจีบสามีในชาติใหม่ให้ติดภายในเดดไลน์ที่จำกัด ความฮาจึงไม่ได้อยู่ที่ความน่ากลัว แต่อยู่ที่ความพยายามของผีสาวที่ต้องแอ๊บเนียนเป็นคน และผู้กำกับที่ต้องคุมกองถ่ายที่มีผีของจริงเดินเพ่นพ่าน

การกลับมาเจอกันในรอบ 15 ปีของ “หม่ำ เท่ง โหน่ง” ในภาพยนตร์เรื่อง นากรักมาก ม๊ากมาก ไม่ใช่แค่การรียูเนียนเพื่อเรียกเสียงฮาตามสูตรสำเร็จ แต่นี่คือภาพยนตร์ที่เล่นกับโครงสร้าง “หนังซ้อนหนัง” (Meta-film) อย่างน่าสนใจ ใครที่กำลังวางแผนจะไป ดูหนัง เรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ สิ่งที่ต้องรู้คือมันไม่ใช่แค่หนังล้อเลียนแม่นากทั่วไป แต่เป็นการตั้งคำถามถึงสิทธิ์ในการเล่าเรื่อง ผ่านพล็อตที่ซับซ้อนกว่าหน้าหนังตลกที่เราเห็น ใครที่อยากรับชมแบบ เต็มเรื่อง เพื่อเก็บรายละเอียด นี่คือบทสรุปเจาะลึกก่อนตีตั๋วเข้าโรง

เรื่องย่อ นากรักมาก ม๊ากมาก กับพล็อตหนังซ้อนหนัง

ความน่าสนใจของบทภาพยนตร์เรื่องนี้ คือการไม่ได้เล่าตำนานแม่นากแบบตรงไปตรงมา แต่เลือกเล่าผ่านกองถ่ายภาพยนตร์ที่ “ผู้กำกับปื๊ด” (รับบทโดย โหน่ง ชะชะช่า) กำลังพยายามถ่ายทำหนังเกี่ยวกับแม่นากอยู่ แต่จุดพลิกผันเกิดขึ้นเมื่อ นางนากตัวจริง (รับบทโดย ญดา นริลญา) ปรากฏตัวขึ้นกลางกองถ่าย ไม่ใช่เพื่อมาหลอกหลอน แต่เพื่อทวงสิทธิ์ในการเล่าเรื่องราวชีวิตของเธอเอง

ตัวหนังนำเสนอประเด็นที่ลึกซึ้งผ่านสถานการณ์ตลกขบขัน เมื่อตัวละครหลักอย่างนางนาก ลุกขึ้นมาตั้งคำถามกับผู้สร้างว่า “ทำไมถึงเล่าเรื่องของเธอโดยไม่ถาม?” และประกาศชัดเจนว่าหากจะมีการสร้างหนังเกี่ยวกับเธอ เธอต้องเป็นคนกำกับทิศทางด้วยตัวเอง ซึ่งเปลี่ยนสถานะจากผีที่ถูกกระทำ มาเป็น ผู้ควบคุมเรื่องเล่า (Narrative Controller) อย่างเต็มตัว ทำให้ผู้ชมต้องคิดตามเส้นเรื่องคู่ขนานระหว่างเรื่องวุ่นๆ ในกองถ่าย และเรื่องราวความรักของนางนาก

เบื้องหลังการกลับมาของแก๊งสามช่า และความแตกต่างจากหนังพี่มาก

การโคจรมาพบกันของ หม่ำ จ๊กมก, เท่ง เถิดเทิง และโหน่ง ชะชะช่า นำมาซึ่งเคมีที่เป็นธรรมชาติที่แฟนคลับคุ้นเคย โดยเฉพาะการที่โหน่งรับบทเป็นผู้กำกับในเรื่อง ยิ่งทำให้เส้นแบ่งระหว่างการแสดงและคาแรคเตอร์จริงดูเบาบางลง สร้างความลื่นไหลในจังหวะคอมเมดี้ แต่สิ่งที่ทำให้ นากรักมาก ม๊ากมาก แตกต่างจากหนังแม่นากเวอร์ชันอื่น หรือแม้แต่ “พี่มาก..พระโขนง” คือเจตนาในการนำเสนอ

ในขณะที่พี่มาก..พระโขนง เน้นความสนุกสนานในรูปแบบหนังล้อเลียน (Parody) แต่เรื่องนี้กลับใช้ “ผี” เป็นสัญลักษณ์ในการตั้งคำถามเกี่ยวกับ สื่อสารมวลชนและการบริโภคสื่อ ชื่อเรื่องที่จงใจสะกดคำว่า “ม๊าก” ด้วยไม้ตรี (ผิดหลักภาษา) ก็เป็นการส่งสัญญาณจากผู้สร้างตั้งแต่ต้นว่า หนังเรื่องนี้มีความผิดเพี้ยนและไม่ธรรมดาซ่อนอยู่ ภายใต้ความตลกคือการเสียดสีวิธีที่เราเสพเรื่องราวในยุคปัจจุบัน ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนกุมความจริง

บทสรุป: ก้าวใหม่ของหนังตลกไทยที่ท้าทายคนดู

นากรักมาก ม๊ากมาก ถือเป็นความพยายามในการยกระดับหนังตลกไทยให้มีความ “ฉลาด” ในการเล่าเรื่องมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ชมที่มองหาอะไรที่มากกว่ามุกคาเฟ่ แต่ต้องการเห็นลูกเล่นการเล่าเรื่องแบบใหม่ๆ และการแสดงที่จริงจังของ ญดา นริลญา ที่มาปะทะกับตำนานตลกสามช่าได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ นี่คือหนังที่ท้าทายกรอบความคิดเดิมๆ และอาจเป็นหมุดหมายสำคัญของวงการหนังไทยในปีนี้

สิ่งที่น่าสนใจจนต้องหยิบมาขยี้คือการวางโครงสร้างแบบ “Meta-Comedy” (หนังซ้อนหนัง) ที่ฉลาดเลือก ญดา นริลญา (จากร่างทรง) มารับบทแม่นาก การแสดงของเธอคือ MVP ที่เชื่อมโลกสองใบเข้าด้วยกัน—โลกตลกคาเฟ่ระดับตำนานของแก๊งสามช่า และโลกภาพยนตร์รอมคอมยุคใหม่ ญดาสามารถสลัดภาพจำความหลอนมาเป็นแม่นากโหมด “คลั่งรัก” ที่ดูแล้วเชื่อว่ารักพี่มากจริงๆ ทำให้หนังไม่ได้มีแค่มุกตลกสังขาร แต่มีเส้นเรื่องความรักที่แข็งแรงพอจะดึงคนดูให้เอาใจช่วย

ในขณะเดียวกัน การกลับมาเจอกันในรอบ 15 ปีของ หม่ำ-เท่ง-โหน่ง ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง จังหวะรับส่งมุกแบบ “มองตาก็รู้ใจ” ยังคงเป็นเสน่ห์ที่หาตัวจับยาก โดยเฉพาะการที่โหน่งมารับหน้าที่กำกับ (ทั้งในเรื่องและนอกเรื่อง) ทำให้เราได้เห็นมุกด้นสด (Improvise) ที่เป็นธรรมชาติ ไหลลื่นไปกับสถานการณ์ในกองถ่ายจำลอง เปรียบเสมือนการปะทะกันของ “ตลกยุคเก๋า” กับ “นักแสดงยุคใหม่” ที่ผสมออกมาได้กลมกล่อมและแปลกใหม่กว่าหนังแม่นากเรื่องไหนๆ

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

Seraphinite AcceleratorOptimized by Seraphinite Accelerator
Turns on site high speed to be attractive for people and search engines.