Miss Sloane ความเข้มข้นที่มีที่มาจากความรุนแรงจากการใช้ปืน เพื่อป้องกันตัวเอง กำลังเป็นปัญหาที่ยังไม่สิ้นสุดสำหรับรัฐบาลอเมริกา เมื่อกฏหมายครอบครองปืนเพื่อการป้องกันตัวเอง กลายเป็นดาบสองคม ที่มีเยาวชนนำปืนที่บ้านมากราดยิงเพื่อนๆที่โรงเรียน และมันไม่ใช่แค่ครั้งเดียว เรื่องราวเหล่านี้จึงเป็นที่มาของ Miss Sloane ดูหนังดราม่าเข้มข้นสุดตื่นเต้น ที่ต้องใช้พลังและความสามารถทางการแสดงอย่างมาก ส่วนผู้ดำเนินเรื่องตัวหลัก ต้องรับบทบาทเป็นนักล็อบบี้ไม่ให้มีกฏหทายควบคุมครอบครองอาวุธปืน นักแสดงที่จะมารับบทบาทสุดหินนี้คือ เจสสิก้า เชสเทน เธอได้เข้าไปพูดคุยและสังเกตการณ์การทำงานของเหล่า Gun lobbyist ผู้หญิง 11 คน ยิ่งทำให้เธอเข้าถึงและเข้าใจการทำงานของคนอาชีพนี้มากยิ่งขึ้น กำกับการแสดงโดย จอห์น เมดเดน ได้ โจนาธาน เพอเรรา นักเขียนบทดูหนังไฟแรงมารับหน้าที่เขียนบท
หยิบเอาละครเพลงมาขึ้นจอหนังกับเรื่องราวโศกนาฏกรรมความรักของหญิงสาวชาวเอเชียและนายทหารอเมริกัน เป็นละครเพลงที่ได้รับความนิยมมาก ซึ่งแต่เดิมนั้นเค้าโครงเรื่องถูกนำมาจากเรื่องมาดามบัตเตอร์ฟลาย ซึ่งตัวละครฝ่ายหญิงถูกระบุเลยว่าเป็นหญิงสาวชาวญี่ปุ่น แต่เมื่อนำมาดัดแปลงเป็นมิสไซง่อน จึงเปลี่ยนตัวละครหญิงเป็นหญิงสาวชาวเวียดนาม และถือว่าเป็นละครเพลงที่ยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่งของยุคเลยทีเดียว และครั้งนี้ถือว่าเป็นการฉลองครบยี่สิบห้าปีของละครเพลงสุดยิ่งใหญ่นี้ด้วย ซึ่งผู้ที่มารับบทคิม หญิงสาวชาวเวียดนามที่ไปทำงานในบาร์ คือ อีวา โนเบิลซาดา และผู้ที่มารับบทคริส ทหารอเมริกันก็คืออบิสแตร์ แบรมเมอร์
มิสไซง่อน เป็นเรื่องราวความรักอันแสนเศร้าของสาวกำพร้าชาวเวียดนาม เธอมีชื่อว่าคิม ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสงคราม ที่นี่เธอได้พบกับนายทหารหนุ่มชาวอเมริกันที่ทำให้เธอรู้สึกถึงความรักอันงอกเงยขึ้นในใจ เขามีชื่อว่าคริส แต่ด้วยความโหดร้ายของสงคราม ความรักของคนทั้งคู่จึงมีอุปสรรค ต้องพลัดพรากจากกันไป จนกระทั่งเมื่อเวลาผ่านไปสามปี คริสและคิมได้กลับมาพบกันอีกครั้ง แต่ทุกอย่างไม่ง่ายอย่างนั้น เมื่อคริสได้แต่งงานไปเสียแล้ว โศกนาฎกรรมความรักของเขาและเธอจะดำเนินไปเช่นไร ติดตามกันได้ในโรงหนัง
เอลิซาเบ็ธ สโลน มีอาชีพ Gun lobbyist เธอได้รับงานสุดท้าทายและละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกของผู้ที่สูญเสียจากการใช้อาวุธปืนยิงกราด และเรื่องนี้เป็นประเด็นร้อนระดับชาติเกี่ยวกับการครอบครองกฏหมายการครอบครองอาวุธปืน ว่าควรจะมีกฏหมายควบคมหรือไม่ ความคิดเห็นของประชาชนแตกแยกเป็นสองฝ่ายทั้งฝ้ายที่สนับสนุนและต่อต้าน เธอและทีมงานถูกว่าจ้าง ไม่ให้มีกฏหมายการควบคุมการใช้อาวุธปืน การทำงานของเธอเต็มไปด้วยประเด็นอันอ่อนไหวและผลกระทบต่างที่จะตามมา รวมทั้งความขัดแย้งและความคิดเห็นมากมาย การถูกดดันจากฝ่ายตรงข้าม ที่ต้องการผลักดันกฏหมายนี้ออกมาโดยเร็ว เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาและความสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้ โดยเฉพาะชีวิตผู้บริสุทธิ์ และแน่นอนว่าการทำงานของเธอแข่งกับเวลา ที่ต้องเสนอข้อมูลและแนวทางต่างๆเกี่ยวเรื่องนี้ต่อรัฐบาล อีกทั้งเพื่อเป็นการเปรียบเทียบข้อมูลกับฝ่ายสนับสนุน เธอเหมือนถูกว่าจ้างมาเพื่อชนะ และนี่คือแรงกดดันที่สุดในชีวิตการทำงานของเธอ เธอจะเอาชนะเหตุผลและตรรกกะที่แตกต่าง ความหวาดกลัว และอนาคตที่ยังมาไม่ถึงได้อย่างไร ติดตามการทำงานแบบมืออาชีพที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นของเธอได้ใน Miss Sloane
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าการดำเนินเรื่องจะเข้มข้น ตื่นเต้น และดุดันมากแค่ไหน ที่ต้องเผชิญหน้ากับความแตกแยกของความคิดจากฝ่ายที่สนับสนุนและต่อต้าน อย่างไรก็ตามการหาทางออกในเรื่องนี้ยังไม่สามารถยุติได้ นอกจากเราจะได้ชมการแสดงอันสุดยอดของนักแสดงระดับแนวหน้าแล้ว เราจะได้รับรู้การทำงานแบบมืออาชีพ และการใช้ไหวพริบ สติปัญญา เหตุผล ที่อยู่เหนืออารมณ์ในแบบของคนทำงานจริงๆ ว่าพวกเขาต้องเจออะไรบ้างในแต่ละวัน ซึ่งน่าจะนำมาปรับใช้ได้กับเรา และที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คือ หนังเต็มเรื่องนี้มีโอกาสได้เข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นอย่างมากทั้งในด้านของโปรดัคชั่นและนักแสดงนำหญิง ใครที่คิดว่าดูหนังเรื่องนี้อาจนำพาความเครียดมาให้อาจคิดถูกแต่ไม่ทั้งหมด เพราะในแต่ละตอนนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เชือดเฉือน เหมือนการปลดปล่อยอารมณ์อึดอัดดีๆ นี่เอง Miss Sloane และอาจเป็นดูหนังเรื่องหนึ่งที่คุณต้องจดจำ
พลอตคลาสสิคที่หลายประเทศนำมาสร้างเป็นเรื่องราวความรักอันแสนเศร้า เกี่ยวกับทหารอเมริกันและหญิงสาวชาวเอเชียที่มาพบเจอและตกหลุมรักกันในยามสงคราม ส่วนใหญ่มักจะจบแบบแสนเศร้าและมิสไซง่อนเองก็เดินเรื่องราวไปในทางนั้น ความรักต่างเชื้อชาติมักจะสร้างความสะเทือนอารมณ์ให้กับคนดูได้ดี ยิ่งเมื่อบวกรวมเข้ากับเรื่องราวความไม่สมหวังที่เกิดขึ้นภายใต้ข้อจำกัดของสงครามยิ่งทำให้คนดูอินเข้าไปใหญ่ รวมกับเพลงที่สามารถดึงอารมณ์คนดูให้คล้อยตามได้เป็นอันหนึ่งอันเดียว และฝีมือนักแสดงระดับมืออาชีพในเวลานั้น จึงอย่าแปลกใจถ้ามิสไซง่อนจะกลายเป็นละครเพลงสุดคลาสสิคที่ใครหลายคนจดจำ และความประทับใจนั้นก็กำลังจะกลับมาอีกครั้ง แม้บริบทจะแตกต่าง เพราะตอนนี้บ้านเมืองไม่ได้อยู่ในช่วงสงครามและคนในยุคนี้ส่วนใหญ่ก็ยังไม่เคยเผชิญกับสงคราม ก็ถือเป็นความท้าทายของละครเพลงเรื่องนี้ว่าจะเจ๋งถึงขนาดผงาดขึ้นมาได้อีกครั้งหรือไม่ หากสามารถทำได้ก็ต้องยอมรับว่าความคลาสสิคของมิสไซง่อนไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหนก็ไม่เคยจางหายไป และถ้าหากใครยังไม่เคยสัมผัสความประทับใจนี้ก็สามารถเก็บเกี่ยวเรื่องราวความรู้สึกเหล่านี้ได้ ทุกโรงหนัง!
