Maze Runner 2 เรียกได้ว่ากลับมาแล้วจ้า สำหรับภาคที่ 2 ของหนังผจญภัยแนว Survivor ที่ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชนที่มีภาคต่อถึง 4 เล่มจบ Maze Runner เป็นหนังสือระดับเบสต์เซลเลอร์ของนักเขียน เจมส์ แดชเนอร์ ที่รู้จักกันในภาษาไทยที่ว่า “เกมล่าปริศนา” ซึ่งครั้งนี้ผู้กำกับ เวส เบลล์ (Wes Ball) ได้นำเรื่องราวการผจญภัยสุดลุ้นระทึกมาสานต่อความสนุกกันอีกครั้ง ทั้งที่คนดูถ้าไม่ได้อ่านหนังสือก็คงคิดว่าจบแล้วหลังจากกลับมาในยุคปัจจุบันได้ แต่คุณคิดผิด !! มันไม่ง่ายขนาดนั้น โดยสำหรับในภาคสองนี้มีการเพิ่มเทคนิคพิเศษและปรับสเกลภาพรายละเอียดของหนังให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจากภาคก่อน ยังไม่หมดเขายังยกระดับความอันตรายที่เรียกได้ว่าอัพเกรดขั้นสุดยอดให้กับเหล่าตัวละครของเขาที่ต้องเผชิญเพื่อเอาชีวิตรอดให้มากขึ้นเป็นเท่าตัวอีกด้วย หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามไปแล้วกับหนังเรื่อง The Maze Runner กันในภาคแรกแล้ว กลับมาในภาคต่อนี้ Maze Runner: TheScorch Trials ทางทเวนตี้เซนจูรี่ฟอกซ์ก็ได้ประกาศสร้างภาคต่อขึ้นทันทีอย่างไม่รอช้า ซึ่งมาในชื่อว่า Maze Runner: TheScorch Trials โดยในภาคนี้ได้ผู้กำกับฯ มากฝีมือจากภาคที่แล้วอย่าง เวส บอล (Wes Ball) ที่ได้สร้างความสนุกสนาน และไม่ทำให้แฟนๆ หนังผิดหวังกันมาแล้ว กลับมาในภาคนี้กับคอนเซปต์อาร์ต พร้อมทีมนักแสดงนำคุณภาพอย่าง คายา สโคเดลาริโอ (Kaya Scodelario), โทมัส โบรดี้ แซงสเตอร์ (Thomas Brodie-Sangster), ดีแลน โอ’ไบรอัน (Dylan O’Brien) และไคฮองลี (Ki Hong Lee) ที่จะมาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวผจญภัยในภาคต่อนี้ให้ได้ชมกัน
แนวทางการดำเนินเรื่องของ Maze Runner2
ใช้ความอยากรู้ของผู้ชมให้เป็นประโยชน์โดยใช้ปัญหาคาใจจากภาคแรกมาเรียกเรตติ้งคือ ประเด็นที่ว่า ทำไมคนเกือบสองร้อยคนถึงต้องมาอาศัยอยู่ร่วมกันภายในทุ่ง พวกเขามาจากไหน ใครส่งพวกเขามา พวกเขามาได้ยังไง และทำไมถึงมีคนถูกส่งมาเพิ่มเรื่อยๆ ทำไมต้องมีเขาวงกต ทำไมในเขาวงกตมีสัตว์ประหลาด สำหรับใน Maze Runner2 นี้ สามารถคาดเดาได้ว่าน่าจะจบแบบภาคแรกคือทิ้งท้ายปริศนาใหม่ไว้ให้ตามต่อและสร้างภาคต่อไปตามนิยายซึ่งนิยายมีทั้งหมด3เล่มและภาคเสริมอีก 1 เล่ม
Maze Runner: TheScorch Trials เป็นเรื่องราวต่อเนื่องจาก The Maze Runner ในภาคก่อน หลังจากโธมัสได้หนีออกมาจากวงกตมฤตยูได้สำเร็จ แต่ทว่าอิสรภาพของเขาไม่ได้ถูกปลดปล่อยอย่างที่เขาคิด เมื่อความจริงแล้วองค์กรที่อยู่เบื้องหลังอย่าง WICKED ได้เตรียมบททดสอบอันสุดโหดขั้นต่อไปรอคอยพวกเขาอยู่ ถ้ายังจดจำกันได้ว่าโลกภายนอกเขาวงกตนั้นถูกดวงอาทิตย์แผดเผากลืนกินจนเกือบหมดแล้ว โลกภายนอกครั้งนี้ไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ ไม่มีแม้แต่การช่วยเหลือ มีเพียงการเอาชีวิตรอดหรือตายระหว่างทางเท่านั้น โธมัสและชาวทุ่งที่หลงเหลืออยู่ พร้อมเวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น ในการเดินทางข้ามผ่านส่วนที่ดวงอาทิตย์แผดเผามายังโลกมากที่สุด องค์กรอย่าง WICKED จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อสกัดกั้นทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้พวกเขาสามารถรอดชีวิตออกไปอย่างง่ายๆ เมื่อมิตรภาพของพวกเขากำลังจะถูกทดสอบ ความภักดีจะไม่มีอีกต่อไป การเอาตัวเองให้รอดชีวิตเท่านั้น นั่นคือหนทางเดียวที่มี
ตัวละครใน Maze Runner 2
จากภาคแรก
- โธมัส (Thomas) รับบทโดย ดีแลน โอ’ไบรอัน (Dylan O’Brien) อดีตนักวิจัยอนาคตรุ่งขององค์กร WCKD ที่ถูกล้างความทรงจำ และเป็นผู้ชายคนสุดท้ายที่ถูกส่งตัวไปยังทุ่งในภาคที่แล้ว เขาเป็นแกนนำในการหนีออกจากทุ่ง
- นิวท์ (Newt) รับบทโดย โทมัส โบรดี แซงสเตอร์ (Thomas Brodie-Sangster)เด็กหนุ่มเพื่อนร่วมชะตากรรมที่สามารถหนีออกจากเฟสที่ 1 (ท้องทุ่ง) มาพร้อมกับโธมัส เป็นคนที่มีเหตุผลและใจเย็น ในภาคที่แล้วเคยได้รับตำแหน่งเป็นรองหัวหน้า รองจากอัลบี
- มินโฮ (Minho) รับบทโดย คี ฮอง ลี (Ki Hong Lee)หนุ่มเอเชีย เพื่อนร่วมชะตากรรมอีกคนของโธมัส ที่สามารถหนีพ้น จากเฟสที่ 1 มาได้พร้อมกัน ซึ่งในภาคก่อนนั้น เขาคือ “นักวิ่ง” ซึ่งร่วมฝ่าฟันด่านวงกตจนพบทางออกพร้อมกับโธมัส
- เทเรซา (Teresa) รับบทโดย คายา สโคเดลาริโอ (Kaya Scodelario)อดีตนักวิจัยสาวขององค์กร WCKD และเป็นคนรักของโธมัส ที่หลบหนีเข้าทุ่ง เพื่อแจ้งข่าวร้ายอะไรบางอย่างแก่โธมัส ก่อนที่ประตูจะปิดตลอดการ เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มของโธทัสที่หนีออกจากเฟสที่ 1 พร้อมๆกัน
ตัวละครใหม่
- เอริส โจเนส (Aris Jones) รับบทโดย Jacob Lofland
- แฮร์เรียส (Harriet) รับบทโดย Nathalie Emmanuel
- เจนสัน (Janson) รับบทโดย Aidan Gillen
- โจร์ค (Jorge) รับบทโดย Giancarlo Esposito
หัวใจของ Maze Runner 2
หนังเรื่องนี้เน้นแนว Survivol คือ การเอาชีวิตรอด ที่สุดท้ายมนุษย์ก็ต้องเผยสัญชาติญาณที่แท้จริงออกมาคือการเอาตัวรอด และตัวหนังถูกตีความออกมาโดยใช้สังคมเป็นสื่อและตีแผ่ให้มองในรูปแบบของการเมืองเช่น การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล การกำหนดอิสรภาพ การบังคับ การที่ผู้มีอำนาจใช้อำนาจในทางที่กดขี่ผู้ด้อยกว่าจนทำให้สังคมเกิดความแตกแยกหากมีใครเห็นต่างกับผู้นำจะต้องถูกลงโทษหรือถูกขับไล่ออกจากกลุ่ม การสร้างความไม่ปลอดภัย ความหวาดระแวงให้กับเพื่อนในสังคม การปลูกฝังความคิดของตนเองให้กับผู้อื่นโดยปราศจากการรับฟังความคิดเห็น สร้างศัตรูกับผู้คนที่คิดต่างเพื่อเป็นการอวดอ้างว่าตนนั้นมีอำนาจแข็งแกร่ง
ความเป็นดิสโทเปียของหนัง ความดิบ ความเถื่อน ความโหดร้าย ความรุนแรง การเอาชีวิตรอด ความอดยาก ความสิ้นหวัง ความหวัง ผู้นำ ผู้ตาม การคิดต่าง การเอาตัวรอด ความลับที่ถูกซ่อนอยู่ในภายในตัวหนังเอง
สำหรับหนังแนวแอ็กชั่นผจญภัยอย่าง “Maze Runner: TheScorch Trials” นี้ จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งหนังที่สร้างจากนิยาย และประสบความสำเร็จได้อย่างงดงาม สำหรับ The Maze Runner ในภาคแรก และสามารถขึ้นอันดับหนึ่งได้ทั้งหมด 50 ประเทศ จากทุนสร้างเพียง 32 ล้านเหรียญ ด้วยตัวเรื่องที่สนุกชวนติดตามในเขาวงกต และการกลับมาในภาคต่อของหนังเรื่อง “Maze Runner: TheScorch Trials” รับรองว่าไม่ทำให้แฟนๆ หนังผิดหวังกันอย่างแน่นอน เพราะครั้งนี้นอกจากความตื่นเต้นเร้าใจกับเรื่องราวผจญภัยสุดมันแล้ว ยังมีเทคนิคการถ่ายทำ สเปเชียลสุดพิเศษอลังการอีกมากมาย เรียกได้ว่ามากกว่าในภาคก่อนมาอวดแก่สายตาผู้ชม เตรียมรอร่วมลุ้นระทึกสุดมันไปกับ “Maze Runner: TheScorch Trials” ได้แล้ว ในวันที่ 17 กันยายน 2558 นี้ ทุกโรงหนัง หากคุณเป็นแฟนหนังแนวดิสโทเปียนี่คือหนังที่คุณไม่ควรพลาด หรือถ้าคุณเป็นคนชอบไขความลับนี่คือหนังที่กุมความลับของตัวละครทั้งหมดเอาไว้ คุณก็ไม่ควรพลาด หรือถ้าคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้นิยายเรื่องนี้ คุณก็ไม่ควรพลาดหนังเรื่องนี้ หรือถ้าคุณแค่อยากหาหนังสนุกๆดู นี่คือเหตุผลสำคัญเลยว่าคุณไม่ควรพลาดหนังเรื่องนี้แน่นอน