London Has Fallen เป็นเพราะว่าไม่อยากจะชนกับหนังไซไฟอย่าง The martian ทำให้หนังภาคต่ออย่าง(ภาคต่อของหนังเรื่อง Olympus Has Fallen ) ตัดสินใจเลื่อนวันฉายจากเดือนตุลาคม ปี 2015 ไปเป็นเดือนมกราคมปี 2016 เพื่อจะได้ไม่มีผลกระทบเรื่องรายได้ ทั้งยังไม่ต้องแข่งขันกันจนหืดขึ้นคออีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นความน่าสนใจของดูหนังก็ไม่ได้ลดน้อยลง และแฟนๆก็ยังตั้งหน้าตั้งตารอชมหนังเรื่องนี้อย่างเหนียวแน่น หนังฟอร์มดี เป็นภาคต่อจาก Olympus Has Fallen ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเรื่องรายได้ทั่วโลกโดยเฉพาะในอเมริกา ผู้สร้างได้เปิดมิติใหม่ของการชมหนังด้วยการฉีกภาพความงามของสถานที่สำคัญ มาเป็นการถูกทำลาย และทำได้อย่างสมจริง ผู้ชมอาจเคยเห็นฉากการทำลายล้างสถานที่สำคัญมาจากหนังเรื่องอื่นๆมาบ้าง แต่จัดหนักจัดเต็ม เน้นเรื่องการทำลายล้างให้หวั่นใจเกือบทั้งเรื่อง พร้อมทั้งนักแสดงคุณภาพอย่าง เจอร์ราด บัดเลอร์ มอร์แกน ฟรีแมน ทีมงานและผู้กำกับคนใหม่ แต่อรรถรสความมันส์ของหนังยังคงคอนเซปต์เดิม อะไรที่ไม่ได้เห็นก็จะได้เห็นด้วยที่สุดของการทำลายล้างหลังจากสร้างความมันส์เมื่อสามปีที่แล้วจากหนังเรื่อง Olympus Has Fallen ซึ่งทำให้ใครหลายคนถึงกับยกนิ้วให้กับความมันส์ถล่มทลายที่คาดไม่ถึง ทั้งการแสดงของ Gerard Butler ที่หล่อลากกระชากใจ จนถึงฉากอันสมจริงที่ทำให้คนดูเหมือนเข้าไปนั่งอยู่ในเหตุการณ์จริง มาปีนี้ LONDON HAS FALLEN เป็นภาคต่อที่จะดำเนินเรื่อง 2 ปีหลังจากเหตุการณ์ใน Olympus Has Fallen ซึ่งหนังยังได้พระเอกคนเดิม Gerard Butler มารับหน้าที่นักแสดงนำ ในโปรเจคน์ใหญ่ระดับโลกที่หลายคนรอคอย ดังนั้นเรื่องภาพและฉากจึงย่อมจะต้องอลังการ ซึ่งทางสตูดิโอที่จำลองฉากยิ่งใหญ่อย่างเช่นวิหารเซนต์ปอล ก็จัดมาแบบไม่ยั้ง จำลองให้เหมือนที่สุดเพื่อความสมจริง แม้แต่ระเบิดที่ใช้ในการถ่ายทำก็เป็นของจริง เรียกได้ว่างานนี้ ทุกอย่างนั้นอลังกาลงานสร้าง ขาบู๊ ขามันส์ไม่ควรพลาดเด็ดขาด
London Has Fallen หากดูหนังจากชื่อเรื่องก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่าเรื่องราวจะเกิดขึ้นโดยมีฉากหลังเป็นกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อเหล่าผู้นำแห่งโลกตะวันตก ต่างเดินทางไปยังกรุงลอนดอน เพื่อร่วมงานศพของผู้นำแห่งประเทศอังกฤษซึ่งเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา ทำให้พวกเขาเหล่านั้นตกเป็นเป้าของผู้ก่อการร้ายที่หวังจะสังหารบุคคลสำคัญ และทำลายสถานที่สำคัญอันยิ่งใหญ่ให้พังย่อยยับพินาศลงไป แน่นอนว่าต่อให้มีการคุ้มกันที่แน่นหนาขนาดไหน แต่โอกาสดีๆที่ผู้นำประเทศต่างๆซึ่งเป็นเป้าสังหารจะมารวมตัวกันมากมายขนาดนี้นั้นไม่ใช่เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ง่าๆ และผู้ที่จะหยุดยั้งเหตุการณ์เลวร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นได้นั้น มีเพียงประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับ และเจ้าหน้าที่ MI-6 เท่านั้น เมื่อนายกรัฐมนตรีอังกฤษเสียชีวิตลงอย่างเป็นปริศนา ประเทศมหาอำนาจและศูนย์กลางความเจริญอย่างสหราชอาณาจักร จึงต้องจัดงานไว้อาลัยให้สมเกียรติท่านผู้นำ ทำให้ผู้นำทั่วโลกเดินทางมาที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ พิธีศพครั้งนี้คือการรวมตัวกันของผู้ทรงอิทธิพลทั่วโลก รวมทั้งการเป็นเป้าหมายของผู้ก่อการร้าย ที่ต้องการสร้างความหวาดกลัวและสั่นคลอนอำนาจของผู้นำ ถึงแม้จะมีการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดก็ตาม ความโกลาหลครั้งใหญ่เกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากปี 2013 ลอนดอนถูกก่อวินาศกรรม ผู้คนอยู่ในความหวาดกลัวและตื่นตระหนก รวมทั้งสูญเสียขวัญกำลังใจอย่างอยากเมื่อ หอนาฬิกาบิ๊กเบน ถูกทำลายลงจากผู้ก่อการร้าย เมื่อสัญลักษณ์ของอังกฤษถูกทำลายลง เพียงเท่านี้ก็เท่ากับการทำร้ายให้หัวใจชางอังกฤษไปด้วย การโจมตีเริ่มรุนแรงขึ้น ทาวเวอร์บริดจ์สัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งกำลังถูกจู่โจม เหตุการณ์โจมตีนี้ส่งผลให้มีผู้คนล้มตายจำนวนมาก รวมทั้งผู้นำ 5 คนได้เสียชีวิตลง การเผยตัวตนของผู้บงการที่ทรงอิทธิพล และพร้อมจะต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามในทันที และไม่เกรงกลัวใครหน้าทั้งสิ้น การเป็นผู้ร้ายได้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง ไม่มีการหลบหนีอีกต่อไป กลับกลายให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้ล่า และคอยท้าทายรัฐให้แสดงอำนาจออกมา ราวกับว่าเป็นผู้คุมเกมส์อยู่ฝ่ายเดียว มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะนำพาอังกฤษให้รอดพ้นจากความพินาศนี้ คือ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา หัวหน้าเจ้าหน้าสืบราชการลับ และ MI-6 ของอังกฤษ การพิสูจน์ฝีมือของกลุ่มคนที่ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน ความเสี่ยงต่อชีวิต เพื่อแลกกับความสงบสุขของประชาชนผู้บริสุทธิ์ พวกเขาจะยับยั้งความรุนแรงที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ รวมถึงภัยก่อการร้ายที่จะเกิดขึ้นในเมืองใหญ่ทั่วโลกอีกในอนาคต
สำหรับเรื่องราวของ London Has Fallen นั้นเกิดขึ้นเมื่อเหล่าผู้นำแห่งโลกตะวันตก ต่างก็มารวมตัวกันที่กรุงลอนดอนเพื่อร่วมงานศพของผู้นำแห่งประเทศอังกฤษที่เสียชีวิตอย่างกะทันหัน แน่นอนว่า ณ สถานที่ที่ผู้นำจากประเทศสำคัญทั่วโลกมารวมกัน ผู้ก่อการร้ายที่หวังจะสังหารบุคคลสำคัญก็ย่อมจะไม่ปล่อยให้โอกาสอันหอมหวานนี้ลอยนวลอย่างแน่นอน ในขณะที่เหตุการณ์เลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น มีเพียงสามคนเท่านั้นที่จะหยุดเหตุการณ์นั้นได้ หนึ่งคือหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับที่ทำหน้าที่อารักขาประธานาธิบดี สองคือเจ้าหน้าที่ MI-6 และคนสุดท้ายก็คือประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา และเมื่อนั้นการหยุดยั้งแผนการเลวร้ายก็นำไปสู่ความมันส์แบบไร้ขีดจำกัด ที่จะทำให้กรุงลอนดอนนั้นลุกเป็นเพลิงได้เลยทีเดียว
สิ่งที่น่าสนใจไม่เพียงแค่การที่นักแสดงชุดเก่าถูกยกมาทั้งชุด ซึ่งรวมไปถึงพระเอกหน้าเข้มสุดเท่ห์อย่าง Gerard Butler ด้วย ซึ่งหลายคนหลงรักความเท่ห์แบบไร้ขีดจำกัดของเขามาตั้งแต่ภาคที่แล้ว หลังจากที่ถอดชุดสปาต้ามาสวมสูทเมืองผู้ดี ก็ได้รับเสียงกรี๊ดไม่น้อยหน้าใครเหมือนกัน ไม่เพียงเท่านั้นเชื่อว่าหลายคนกำลังรอโปรดักชั่นฝีมือของสตูดิโอนู โบยานาอย่างใจจดใจจ่อ ว่าฉากที่จำลองขึ้นมาเป็นเมืองลอนดอนทั้งถนนหนทางและเมืองต่างๆนั้นจะสมจริงและพาคนดูเข้าถึงอารมณ์ได้มากแค่ไหน เชื่อว่าคนน่าจะคาดหวังพอสมควร เพราะ Olympus Has Fallen นั้นทำได้ค่อนข้างจะดีมากเสียด้วย ถึงแม้จะสร้างความกดดันให้กับภาคต่อ แต่ก็มีข้อดีคือแฟนหนังนั้นคอยติดตามมาดูเรื่องราวที่ต่อเนื่องในภาคนี้ด้วย ทำให้หนังภาคนี้เป็นที่สนใจไปด้วย แต่งานนี้ความยิ่งใหญ่จะสมราคาคุยหรือไม่ ก็ต้องไปติดตามดูกันในโรง โดยเฉพาะคอหนังแอ็คชั่น ไปร่วมพิสูจน์ความมันส์ด้วยกันเลยการทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างให้พังลงต่อหน้าต่อตาคือสัญลักษณ์ของหนังเรื่องนี้ไปแล้ว แฟนๆหนังที่เคยดูภาคแรกต่างรอคอยว่าต่อไปเมืองไหนจะถูกทำลายล้าง และอังกฤษคือคำตอบ จุดเปลี่ยนที่ผู้นำตัวโกงเปิดหน้าสู้ ไม่มีการซ่อนเร้นใดๆอีกต่อไป เมื่อผู้รักษาและผู้ทำลายมาเผชิญหน้ากัน ความมันส์จากการไล่ลาจึงเกิดขึ้น และใครจะเป็นผู้หยุดยั้งวิกฤตินี้ได้ ความน่าสนใจอยู่ที่นักแสดงในชุดเก่าจาก Olympus Has Fallen นั้นยกกันกลับมาทั้งชุด แน่นอนว่าหลายคนย่อมคาดหวังความมันส์สะใจกันอย่างเต็มเปี่ยม ผู้กำกับอย่างบาบัค นาจาฟี ยกระดับทั้งความรุนแรงจากการก่อการร้ายและผลกระทบที่อลังกาลงานสร้าง ทำลายล้างมหาศาล งานนี้บอกเลยว่า ยิ่งกว่าความมันส์เสียอีกที่แฟนๆจะได้สัมผัส ส่วนระหว่างที่รอก็ชมตัวอย่างหนังเต็มเรื่องไปเพลินๆกันก่อนได้ London Has Fallen