...
โปสเตอร์หนัง ข้างบ้าน
6.5 / 10

ข้างบ้าน

ผู้กำกับ ก้องเกียรติ โขมศิริ
นักแสดงนำ
  • ธีรเดช เมธาวรายุทธ
  • ศรัณย์รัชต์ เผือกพิพัฒน์
  • ณิชชาฎา วีระสุทธิมาศ
ประเภท
เข้าฉาย

เรื่องย่อ

เรื่องราวเริ่มต้นด้วยพล็อตที่ Classic แต่กระแทกใจคนวัยสร้างตัว เมื่อ "วิน" (อาเล็ก ธีรเดช) และ "แพท" (กชเบล ศรัณย์รัชต์) ตัดสินใจเทหมดหน้าตักเพื่อซื้อบ้านเดี่ยวหลังงามในราคาที่ถูกจนน่าสงสัย หวังจะลงหลักปักฐานสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ แต่ความสุขในบ้านใหม่กลับมีอายุสั้นยิ่งกว่าดอกไม้ไหว้พระ เมื่อพวกเขาพบว่า "เพื่อนบ้าน" ไม่ได้มีแค่คุณป้าบ้านตรงข้ามที่คอยส่งสายตาแปลกๆ และพยายามเตือนด้วยพิธีกรรมประหลาด แต่ยังมี "นก" (โบกี้ไลอ้อน) หญิงสาวสวยบ้านติดกันที่มักปรากฏตัวตรงริมรั้วกำแพง พร้อมสายตาที่จ้องมองมาอย่างว่างเปล่าและคุกคาม จุดแตกหักไม่ได้เริ่มที่ผีหลอกวิญญาณหลอนทันที แต่เริ่มจาก "รอยร้าว" ในความสัมพันธ์ เมื่อแพทสัมผัสได้ถึงอันตรายและอยากย้ายหนี แต่วินกลับยืนกรานที่จะอยู่ต่อด้วยเหตุผลสุดเรียลที่น่ากลัวกว่าผี คือ "หนี้ก้อนโต" และทิฐิที่ไม่อยากยอมรับว่าตัวเองตัดสินใจพลาด การต่อสู้ครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การหนีผี แต่เป็นการปกป้องครอบครัวจากแรงอาฆาตที่พยายามแทรกซึมเข้ามาผ่านกำแพงบ้าน และความลับดำมืดในอดีตที่ค่อยๆ เผยตัวออกมาว่า... บ้านหลังนี้ "เลือกเจ้าของ" ไว้แล้ว

เคยมีความรู้สึกนี้ไหม? เวลาเราเจอ “บ้านในฝัน” ที่ราคาดีจนน่าตกใจ ดีจนเหมือนเจ้าของเดิมรีบหนีอะไรบางอย่างไป… ผมเดินเข้าโรงหนังเพื่อดู “ข้างบ้าน” ด้วยความรู้สึกแบบนั้นแหละครับ คิดว่าคงเป็นหนังผีสูตรสำเร็จ : ย้ายบ้าน > เจอผี > วิ่งหนี > จบ แต่สิ่งที่ พี่โขม-ก้องเกียรติ และทีมนักแสดงชุดนี้ทำออกมา มันกลับกระชากความรู้สึกปลอดภัยของเราทิ้งไปอย่างไม่มีชิ้นดี

บอกตรงๆ ว่าหลังจากเดินออกจากโรง ผมถึงกับต้องหันไปมองกำแพงบ้านตัวเองใหม่ด้วยความระแวง นี่คือหนังที่เล่นกับความกลัวพื้นฐานของมนุษย์ได้ “ถึงลูกถึงคน” ที่สุดในรอบปี

เรื่องย่อ ข้างบ้าน กับความสัมพันธ์ที่ถูกจับจ้องจากอีกฝั่งกำแพง

พล็อตเรื่องดูเผินๆ เหมือนจะเรียบง่าย เมื่อ “วิน” (อาเล็ก ธีรเดช) และ “แพท” (กชเบล ศรัณย์รัชต์) ตัดสินใจทุ่มเงินก้อนสุดท้ายเพื่อซื้อบ้านหลังงาม หวังสร้างครอบครัวที่อบอุ่น แต่ความฝันเริ่มกลายเป็นฝันร้ายเมื่อพวกเขาพบว่า ความสงบสุขที่วาดฝันไว้ กลับมีสิ่งแปลกปลอมปะปนอยู่

ปัญหามันเริ่มจาก “นก” (โบกี้ไลอ้อน) เพื่อนบ้านสาวลึกลับที่มีพฤติกรรมชวนขนลุก เสียงกุกกักยามวิกาล สายตาที่จ้องมองผ่านรอยแยก หรือแม้แต่บรรยากาศชวนอึดอัดที่แผ่ออกมาจากบ้านข้างๆ หนังไม่ได้แค่ขายความตุ้งแช่ แต่กำลังตั้งคำถามจิตวิทยาใส่คนดูว่า “เรารู้จักคนที่นอนห่างจากเราแค่กำแพงกั้น ดีแค่ไหน?”

ข้างบ้าน
ที่มา : https://www.sanook.com/movie/185755/gallery/1565143/

ความน่าสนใจคือการเล่าเรื่องที่บีบคั้น พัฒนาจากความสงสัย ไปสู่ความหวาดระแวง และจบลงด้วยความสยองขวัญแบบเลือดสาดตามสไตล์ผู้กำกับ มันคือการพังทลายของพื้นที่ปลอดภัย (Safe Zone) ที่รุนแรงและกระแทกใจคนมีบ้านทุกคน

จากตำนาน The Ghost Radio สู่ความบ้าคลั่งบนจอภาพยนตร์ที่จับต้องได้

แฟนคลับรายการผีคงคุ้นหูกันดีกับเรื่องเล่าระดับมหากาพย์ของ “คุณหนวด” ในรายการ The Ghost Radio ที่เล่ามาราธอนยาวนานถึง 4 ปี (ตั้งแต่ตอนแรกยันปัจฉิมบท) ยอดวิวรวมกว่า 10 ล้านวิว การหยิบวัตถุดิบระดับตำนานนี้มาทำหนัง เป็นดาบสองคมที่ท้าทายมาก เพราะคนรู้เรื่องหมดแล้ว จะทำยังไงให้ยังน่ากลัว?

คำตอบคือการ “ขยายจินตนาการให้เป็นรูปธรรม” หนังทำหน้าที่เติมเต็มสิ่งที่เสียงเล่าทำไม่ได้ งานภาพที่เล่นกับแสงเงาแบบ Weird Horror สร้างบรรยากาศที่กดดันจนคนดูแทบหยุดหายใจ ผมกล้าพูดเลยว่า ใครที่เคยฟังเรื่องเล่ามาแล้ว ก็ยังต้องกรี๊ด เพราะจังหวะการนำเสนอในหนังมันคาดเดาไม่ได้และซับซ้อนกว่าเวอร์ชันเสียง

มันคือการยกระดับจาก “เรื่องเล่ารอบกองไฟ” มาเป็น “ประสบการณ์ร่วม” ที่ทำให้คนดูในโรงรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่กลางบ้านหลังนั้นจริงๆ รับรู้ถึงกลิ่นอายความตายและความไม่น่าไว้วางใจที่ลอยอบอวลอยู่ในอากาศ

อาถรรพ์กองถ่าย และหมอผีที่ต้องสแตนด์บายยิ่งกว่าผู้กำกับ

เรื่องนี้ถ้าไม่เล่าถือว่าผิด เพราะเป็นเกร็ดที่ทำให้หนังดูขลังขึ้นอีก 300% มีข่าวลือหนาหูตั้งแต่ช่วงถ่ายทำว่ากองถ่ายนี้ “เฮี้ยนของจริง” ไม่ใช่แค่พร็อพประกอบฉาก ทั้งผู้บริหารและนักแสดงต่างเจอดีกันถ้วนหน้า จนถึงขั้นต้องเชิญ “หมอผีประจำกอง” มาทำพิธีทุกครั้งก่อนสั่ง Action

ลองจินตนาการดูสิครับ บรรยากาศการทำงานที่ทีมงานกระซิบกันว่า “กองนี้ไม่ได้ถ่ายกันแค่คน” มันส่งผลต่อมวลอารมณ์ในหนังอย่างชัดเจน แววตาความหวาดกลัวของนักแสดงในบางฉาก ผมเชื่อว่ามันคือ “Real Fear” ไม่ใช่แค่การแสดง

ความเชื่อและพิธีกรรมเบื้องหลังเหล่านี้ มันสะท้อนออกมาในเนื้องาน ทั้งความดิบ ความอึมครึม และพลังงานลบที่แผ่ออกมาจากจอภาพยนตร์ ทำให้เรารู้สึกว่าสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า มันอาจจะมี “พลังงานบางอย่าง” แฝงอยู่จริงๆ ก็ได้

เคมีนักแสดงหน้าใหม่ ที่สอบผ่านฉลุยในบทบาทสุดหิน

ต้องขอปรบมือดังๆ ให้กับทีม Casting ที่กล้าเสี่ยงใช้นักแสดงที่ไม่เคยเล่นหนังเต็มตัวมาก่อนถึง 2 คน มาประกบพระเอกเบอร์ใหญ่อย่างอาเล็ก ผลลัพธ์ที่ได้คือความสดใหม่ที่น่าทึ่ง

  • อาเล็ก ธีรเดช (วิน): พลิกบทบาทจากพระเอกอบอุ่น มาเป็นสามีที่ต้องแบกรับความกดดัน ทั้งเรื่องเงินและความปลอดภัยของครอบครัว ที่พีคคือตัวจริงอาเล็กเป็นคน “กลัวผีขึ้นสมอง” แต่ต้องมาเล่นบทที่เจอผีหนักที่สุด ความกลัวที่เห็นในแววตาจึงดูสมจริงแบบไม่ต้องพยายาม
  • กชเบล ศรัณย์รัชต์ (แพท): ลบภาพจำนางงามมิสแกรนด์ไปได้เลย เธอสวมวิญญาณภรรยาที่ต้องสู้เพื่อลูกและครอบครัวได้แข็งแรงมาก จังหวะดราม่าทำได้ลึกซึ้ง ทำให้เราเอาใจช่วยตัวละครนี้สุดหัวใจ
  • โบกี้ไลอ้อน (นก): MVP ของเรื่องต้องยกให้เธอ ใครจะคิดว่านักร้องสาวเสียงเอกลักษณ์ จะกลายร่างเป็นผีข้างบ้านได้หลอนเบอร์นี้ โบกี้ทำการบ้านหนักมาก (เจ้าตัวบอกฝึกเพิ่ม 2 เท่า) การใช้ภาษากายและสายตาของเธอ ทำให้ตัวละคร “นก” กลายเป็นหนึ่งในผีที่น่าจดจำที่สุดของปี

งานกำกับของ “โขม ก้องเกียรติ” และรสชาติความโหดดิบที่คุ้นเคย

ข้างบ้าน
ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/movie/2887935

ชื่อของ “โขม ก้องเกียรติ” คือเครื่องการันตีความเดือด จากผลงานระดับตำนานอย่าง ลองของ, เฉือน หรือ ขุนพันธ์ เขาคือผู้กำกับที่เข้าใจคำว่า “ด้านมืด” ของมนุษย์และภูตผีดีที่สุดคนหนึ่งในไทย

ใน “ข้างบ้าน” พี่โขมยังคงลายเซ็นความ “โหด ดิบ เถื่อน” ไว้อย่างครบถ้วน เอฟเฟกต์ผีเรื่องนี้คือ “ทำถึง” มาก ไม่ใช่ผีหน้าขาวทาแป้ง แต่เป็นผีที่ดูเละเทะ เน่าเฟะ (ฉากศพขึ้นอืดคือติดตามาก ใครกินข้าวไปดูอาจมีขย้อน)

สิ่งที่ผมชอบคือการที่หนังไม่ประนีประนอมคนดู ไม่มีการปูเรื่องเนิบนาบให้ง่วง ผีโผล่คือโผล่ จัดหนักตั้งแต่ต้นเรื่องยันท้ายเรื่อง เป็นหนังผีไทยยุคใหม่ที่เคารพเวลาคนดู คือเข้าไปแล้วได้รับความบันเทิง (ปนสยอง) แบบ Non-stop

กระแสตอบรับและปรากฏการณ์ “ข้างบ้าน” ฟีเวอร์

ตัวเลขไม่เคยโกหกครับ เปิดตัวฉายแค่ 4 วัน กวาดรายได้ไปแล้วกว่า 31 ล้านบาท และกำลังพุ่งทยานสู่ 50 ล้านบาทอย่างรวดเร็ว (มีลุ้นแตะ 100 ล้านแน่นอน) นี่คือเครื่องพิสูจน์ว่าหนังผีไทยยังคงเป็น “ของแข็ง” ถ้าทำออกมาได้ดีจริง

ในโลกโซเชียล แฮชแท็ก #ข้างบ้าน กลายเป็นพื้นที่ระบายความกลัว ชาวเน็ตหลายเสียงยืนยันว่า “อิ่มผีมาก จุกจนจุกอก” หรือ “ผีชุดแดงทำเอานอนไม่หลับ” คะแนนรีวิวเฉลี่ย 8-8.5/10 ถือว่าสูงมากสำหรับหนังแนวนี้ แสดงให้เห็นว่าหนังสอบผ่านทั้งในแง่รายได้และคำวิจารณ์

จุดสังเกตก่อนตีตั๋ว และสิ่งที่ต้องเตรียมใจ (Honest Review)

เพื่อความแฟร์และจริงใจ ผมมีข้อสังเกตเล็กน้อยฝากไว้พิจารณาครับ:

  • ความโหดของภาพ: ใครที่เป็นคนขวัญอ่อน หรือแพ้ทางภาพเลือดสาด แผลเหวอะ ศพเน่า เรื่องนี้อาจจะ “หนักเกินไป” สำหรับคุณ เอฟเฟกต์เขาทำสมจริงจนน่ากลัว
  • จังหวะ Jump Scare: หนังใส่จังหวะตุ้งแช่มาค่อนข้างถี่และรุนแรง ใครที่เป็นโรคหัวใจ หรือไม่ชอบเสียงดังๆ อาจจะต้องเตรียมอุดหูบ้างในบางช่วง
  • ความซับซ้อน: แม้จะมีเส้นเรื่องหลัก แต่หนังมี Sub-plot และปมความสัมพันธ์ที่ต้องใช้สมาธิในการดูนิดนึง ถ้าเผลอเล่นมือถืออาจจะหลุดประเด็นสำคัญได้

สรุป: คุ้มค่าตั๋วไหม?

ถ้าคุณเป็นคอหนังผีที่โหยหาความระทึกขวัญแบบเลือดสูบฉีด “ข้างบ้าน” คือหนังที่คุณห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง มันคือส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างพล็อตเรื่องที่แข็งแรง (จาก The Ghost Radio) การกำกับที่เฉียบขาด และการแสดงที่ทุ่มเท

นี่คือหนังที่ไม่ได้แค่ทำให้คุณกลัวผี แต่จะทำให้คุณกลับไปมอง “เพื่อนบ้าน” ด้วยสายตาที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป… ลองกลับไปสังเกตดูนะครับ ว่าเสียงกุกกักข้างห้องคืนนี้ มันมาจากคนจริงๆ หรือเปล่า?

อ้อ! คำเตือนสุดท้าย… ดูจบแล้วอย่าเพิ่งรีบลุก มี Mid-Credit ซ่อนความลับสำคัญรออยู่!

ขอบคุณข้อมูลจาก :

เจาะลึก (Deep Dive): ทำไม “ข้างบ้าน” ถึงน่ากลัวกว่าหนังผีทั่วไป?

1. สยองขวัญภายใต้ระบอบทุนนิยม (Capitalism Horror) สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ “ทำงาน” กับคนดูยุคปัจจุบัน ไม่ใช่แค่ผีหน้าเละ แต่คือ “ความจน” และ “ภาระหนี้สิน” หนังตอกย้ำความจริงที่เจ็บปวดว่า ต่อให้บ้านจะเฮี้ยนแค่ไหน คนชนชั้นกลางอย่างเราก็ย้ายหนีไม่ได้ง่ายๆ เพราะเงินเก็บทั้งชีวิตจมไปกับเงินดาวน์และค่าตกแต่งหมดแล้ว ตัวละคร “วิน” คือตัวแทนของความกลัวนี้ เขายอมเสี่ยงอยู่กับผีเพราะกลัวความล้มเหลวทางการเงินมากกว่า นี่คือความสยองขวัญแบบ Realism ที่ทำให้คนดูรู้สึกร่วมได้ทันที เพราะในชีวิตจริง… ดอกเบี้ยบ้านน่ากลัวกว่าผีหลอกเสมอ

2. “กำแพง” สัญญะแห่งการถูกคุกคาม (The Wall of Voyeurism) พี่โขมฉลาดมากที่เล่นกับ “กำแพงรั้ว” ในฐานะตัวละครหลัก มันถูกออกแบบมาให้กั้นความเป็นส่วนตัว แต่กลับกลายเป็นจุดที่เปราะบางที่สุด หนังเล่นกับความรู้สึก Insecure (ไม่ปลอดภัย) ของการอาศัยในเมืองใหญ่ ที่เราไม่มีทางรู้เลยว่าคนหลังกำแพงทำอะไรอยู่? หรือแอบมองเราตอนไหน? สายตาของ “นก” ที่มองข้ามกำแพงมา ไม่ใช่แค่การจ้องมองแบบผี แต่คือการละเมิดพื้นที่ปลอดภัย (Safe Space) จิตวิทยาตรงนี้แหละที่ทำให้คนดูเกิดอาการระแวงบ้านตัวเองหลังจากดูจบ เพราะศัตรูไม่ได้อยู่ในบ้าน… แต่อยู่แค่ ข้างบ้าน นี่เอง

3. ความอาฆาตที่เกิดจาก “ตัณหา” ของมนุษย์ หากวิเคราะห์ลึกลงไปในปมของ “ผีนก” (Spoiler Alert: ในเชิงสัญลักษณ์) เธอไม่ใช่ผีที่อาละวาดไร้เหตุผล แต่เป็นตัวแทนของ “ความทะเยอทะยานที่ไปไม่ถึงฝั่ง” แรงขับเคลื่อนของผีตัวนี้คือความอิจฉาริษยาและความต้องการครอบครองสิ่งที่คนอื่นมี (บ้าน, ครอบครัว, ความรัก) มันสะท้อนด้านมืดของสังคมวัตถุนิยมที่วัดค่าคนด้วยสิ่งที่ครอบครอง ทำให้การหลอกหลอนในเรื่องนี้ดูมีความเป็นมนุษย์ (Humanize) สูงมาก จนบางครั้งเราอาจเผลอตั้งคำถามว่า ระหว่าง ผีที่มีปม กับ คนที่ยอมแลกทุกอย่างเพื่อหน้าตาทางสังคม… อะไรน่ากลัวกว่ากัน?

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

Seraphinite AcceleratorOptimized by Seraphinite Accelerator
Turns on site high speed to be attractive for people and search engines.