Father & Son ถ้าจะถามหาหนังกระแสแรงแซงโค้ง เชื่อว่า 1 ใน ลิสท์รายชื่อนั้นจะต้องมีเรื่อง Father & Son (พ่อและลูกชาย) แน่นอน ด้วยเป็นหนังที่นำเสนอเรื่องราวของกลุ่มรักร่วมเพศที่ได้รับเรต ฉ 20 และจำกัดโรงฉายแค่เพียงแค่ที่เอสพลานาด ซีนีเพล็ก รัชดาภิเษก และที่ SFW ซีนีม่า ที่ Central World แน่นอนว่าการถูกจำกัดโรงฉายนั้น ย่อมมาจากเนื้อหาที่ค่อนข้างจะหวาดเสียวต่อเด็กและเยาวชน รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วยนั่นเอง ถึงแม้ว่าจะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องราวรวมถึงภาพที่ค่อนข้างจะดูเปิดเผยของฉากหวาดเสียวหลายๆฉาก แต่ทางผู้กำกับ สราวุธ อินพรหม เอง ก็ได้ออกมาพูถึงเนื้อหาเกี่ยวกับหนังว่า จะเป็นการบอกเล่าในแง่มุมปัญหาครอบครัวที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในกรณีที่เด็กนั้นถูกเลี้ยงดูโดยครอบครัวรักร่วมเพศ เพื่อกระตุ้นให้สังคมได้เห็นปัญหาและเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่คาดการณ์ได้ว่าอาจจะเกิดขึ้นในอนาคตนั่นเอง
โดยเรื่องราวของ Father & Son นั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อ เอกชายหนุ่มรักร่วมเพศและคนรักนั้นต้องการมีลูกเพื่อเติมเต็มความฝันและความเป็นครอบครัว จึงไหว้วานหญิงสาวคนหนึ่งมาอุ้มบุญให้ แต่แล้วคนรักของเอกนั้นกลับประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปก่อน เขาจึงต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง แน่นอนว่าการดำรงอยู่กับสังคมที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากแนะนำของชาวบ้านนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หนึ่งผู้เป็นลูกชายจึงต้องพบกับคำพูดทำร้ายจิตใจและคำพูดที่ทำให้หวั่นไหวเกี่ยวกับเป็นชาวรักร่วมเพศของพ่อเขาเสมอ ในขณธที่มีผู้คนมากมายผ่านเข้ามาในชีวิตจนทำให้อะไรต่อมิอะไรยุ่งเหยิง แต่ถึงอย่างนั้นเอกก็พยายามอย่างที่สุดที่จะเป็นพ่อที่ดีในความคิดของเขา แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกนั้นจะเต็มไปด้วยบาดแผลมากมายก็ตาม
สิ่งที่เรียกความน่าสนใจและเสียงฮือได้ดีที่สุดคือภาพที่ถูกนำเสนอออกมาอย่างชนิดที่ว่า หวาดเสียวไปตามๆกัน จึงมีทั้งกระแสกที่ชอบและไม่ชอบ ยิ่งเมื่อประเด็นที่นำมาเสนอเป็นความสัมพันธ์อันซับซ้อนของพ่อผู้ชอบเพศเดียวกันและลูกชายที่กำลังอยู่ในวัยสับสน ถือว่าหนังกล้าจะเปิดประเด็นที่น่าสนใจ ด้วยประเด็นเรื่อชายรักชายนั้นก็ถือเป็นประเด็นที่ค่อนข้างจะยังละเอียดอ่อนต่อการเปิดเผยต่อสังคมรอบข้าง การหยิบเอาความร็สึกที่ลูกชายจะมีต่อพ่อผู้อยู่ในภาวะรักเพศเดียวกันมานำเสนอ ถือว่าเก๋ และเข้าท่า!หากผู้กำกับสามารถสร้างสมดุลระหว่างฉากหวือหวาที่เรียกเสียงฮือฮาให้กับสังคมและประเด็นที่จุดขึ้นมานี้ได้อย่างลงตัว หนังคงเป็นอะไรที่เปิดมุมมองใหม่ๆได้เป็นอย่างดี แต่ก็ต้องคอยดูกัน 12 พฤศจิกายนนี้ว่า ผู้กำกับจะมือถึงหรือไม่!