Beauty and the Beast ( ปาฏิหาริย์รักเทพบุตรอสูร )หนังโรแมนติกแอคชั่นที่ลงตัวแบบสุดๆ ของผู้กำกับ “Christophe Gans” ที่จะมาเติมเต็มความหวานในหัวใจของผู้ชมหลายๆท่าน โดย Beauty and the Beast สร้างมาจากนิยายอมตะขายดีตลอดการที่มีชื่อเดียวกัน และนำมาทำเป็นหนังหลากหลายเวอร์ชั่น แต่ในเวอร์ชั่นปี 2014 นี้จะพาผู้ชมย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1720
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว… เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินประโยคนี้กันมาหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน และที่คุ้นหูกันมากที่สุดก็คงจะเป็นภาพยนตร์และแอนิเมชั่นจาก Disney ที่ไม่ว่าจะยุคสมัยใดก็อยู่เคียงคู่กับเด็กๆ มาโดยตลอด เรื่องราวเจ้าหญิงและเจ้าชายจาก Disney นั้นไม่ว่าจะผ่านมานานกี่ปีแล้วก็ตามก็ยังคงความสนุกสนานและมนต์ขลังที่ทำให้เรารู้สึกถึงความมหัศจรรย์อยู่ไม่เสื่อมคลาย และเมื่อมาถึงในยุคสมัยแห่งการนำแอนิเมชั่นสุดคลาสสิคมาทำเป็นภาพยนตร์ฉบับ Live Action หรือฉบับคนแสดงนั้น หลังจากที่ผ่านเรื่องราวของสโนไวท์ ซินเดอเรลล่า เจ้าหญิงนิทราและเมาคลีลูกหมาป่าไปแล้ว ในปี 2017 นี้ก็มาถึงคิวของ Beauty and The Beast หรือที่เรารู้จักกันในชื่อโฉมงามกับเจ้าชายอสูร จะถูกนำมาสร้างในเวอร์ชั่น Live Action กันบ้างแล้ว โดยครั้งนี้ได้นักแสดงสาวขวัญใจของใครหลายๆ คนอย่าง Emma Watson มารับบทโฉมงามพร้อมทั้งโชว์พลังเสียงในการร้องเพลงในเรื่องอีกด้วย
เรื่องย่อของหนัง “Beauty and the Beast :โฉมงามกับเจ้าชายอสูร”
Belle สาวงามผู้สดใสและรักการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ หญิงสาวอาศัยอยู่กับพ่อเพียงลำพังสองคน แต่พ่อของเธอกลับหายตัวไปในป่า Belle จึงตัดสินใจเดินทางออกตามหาผู้เป็นพ่อ จนได้พบกับปราสาทรกร้างกลางป่าใหญ่ และที่นั่นเองที่เธอได้พบกับผู้เป็นพ่อที่อยู่ในห้องขัง พร้อมทั้งกับได้เจอเข้ากับ Beast อสูรร้ายผู้เป็นเจ้าของปราสาทแห่งนี้และเป็นผู้ที่จับพ่อของเธอขังเอาไว้ หญิงสาวอ้อนวอนให้อสูรร้ายปล่อยตัวพ่อของเธอไป โดยที่เธอจะเป็นคนอยู่ที่ปราสาทแห่งนี้แทนเอง อสูรร้ายตกลงตามนั้น ชีวิตของ Belle หลังจากนั้นจึงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หญิงสาวต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับอสูรร้ายในปราสาทรกร้างกลางป่านี้
แต่ปราสาทแห่งนี้กลับไม่ได้รกร้างอย่างที่หญิงสาวคิด เพราะเหล่าเครื่องมือเครื่องใช้ในปราสาทต่างก็มีชีวิต ลุกขึ้นมาพูดคุยและเคลื่อนไหวได้ พวกเขาเหล่านั้นกลายมาเป็นเพื่อนของเธอ และต่างก็รอคอยให้ใครสักคนเข้ามาลบล้างคำสาปและทำให้พวกเขากลับไปเป็นมนุษย์อีกครั้ง แต่การจะลบล้างคำสาปได้นั้น จะต้องทำให้อสูรร้ายได้พบกับรักแท้และมองเห็นมันก่อนที่กลีบกุหลาบกลีบสุดท้ายจะร่วงหล่นไป และ Belle จะใช่หญิงสาวคนนั้นหรือไม่ เธอจะสามารถเปลี่ยนอสูรร้ายให้กลายเป็นเจ้าชายได้หรือไม่ ไหนจะยัง Gaston พ่อหนุ่มที่หลงรักหญิงสาวมาเนิ่นนานที่ไม่ยอมจะเสียเธอไปให้กับใคร และต่อให้เป็นอสูรร้ายน่ากลัวแค่ไหน ชายหนุ่มก็พร้อมที่จะสู้เพื่อแย่งชิง Belle กลับมาให้ได้ บทสรุปของเทพนิยายเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร อสูรร้ายจะได้พบกับรักแท้หรือไม่ หรือจะต้องทนทุกข์ทรมานกับคำสาปนี้ไปตลอดกาล
ดูหนัง Beauty and the Beast ( ปาฏิหาริย์รักเทพบุตรอสูร ) เป็นเรื่องเล่าของชายผู้ที่ประกอบอาชีพค้าขายและต้องเลี้ยงดูลูกเพียงลำพังถึง 6 คนหนึ่งในจำนวน 6 คนมีเพียงหญิงสาวคนเดียวที่มีรูปโฉมที่งดงามราวกับนางฟ้า แต่โชคร้ายเมื่อเขาขาดทุนจากการค้าขายจนหมดเนื้อหมดตัว เขาจึงคิดที่จะเดินทางกลับไปยังชนบทเพื่อใช่ชีวิตกับครวบครัวที่แสนอบอุ่นของเขาอย่างเรียบง่าย แต่ระหว่างทางเขาได้พบสถาณที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นเหมือนสวนดอกไม้ที่แสนงดงามยิ่งนัก เขาอดใจไม่ไหวที่จะขโมยดอกกุหลาบในสวนแห่งนั้น แต่เมื่อเขาเด็ดมันขึ้นมา อสูรร้ายก็ปรากฏกายขึ้น!! และต้องการจะลงโทษผู้ที่ขโมยดอกกุหลาบดอกนั้นด้วยความตาย แต่เด็กสาวแสนงามนั้นได้ขอร้องชีวิตพ่อของต้นเอาไว้ โดยเธอยอมที่จะแลกชีวิตกับพ่อของเธอด้วยการไปอยู่กับอสูร และในปราสาทของอสูรเด็กสาวก็ได้พบกับความสุขที่มักจะปมมาพร้อมกับความเศร้า ทุกค่ำคืนเธอจะต้องนั้งกินข้าวในโต๊ะตัวเดียวกันกับอสูร และวันเวลาทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทำให้เธอรู้ว่าอสูรที่ดูเหมือนจะโหดร้ายนั้น แท้จริงแล้วจิตใจของเขานั้นแสนจะเหงายิ่งนัก และในอดีตอสูรตนนี้เคยเป็นเจ้าชายที่มีรูปงดงามและกล้าหาญ ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด แต่มีจิตใจที่โหดร้าย แต่ด้วยความทะนงของเขาทำให้เขาถูกสาปว่า หากเขาไม่สามารถหารักแท้ได้ทันเวลา 1 ปี เขาจะค่อยๆกลายร่างเป็นอสูรดังเช่นจิตใจของเขา เมื่อหญิงสาวได้รู้เช่นนี้ เธอจึงตัดสินใจที่จะช่วยปลดปล่อยความทรมานของอสูร และนั้นทำให้เธอได้พบกับรักแท้ ต้องติดตามดูหนัง Beauty and the Beast
นักแสดงในภาพยนตร์“Beauty and the Beast :โฉมงามกับเจ้าชายอสูร”
สาวงามของหมู่บ้านที่สดใส ร่าเริง เธอมีจิตใจที่อ่อนโยน อบอุ่น แต่ก็แข็งแกร่งกล้าเผชิญหน้าต่อสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และใครๆ ก็รู้ว่าเธอนั้นคือหนอนหนังสือตัวยง การอ่านหนังสือคือการท่องโลกกว้างของเธอ พ่อของเธอคือนักประดิษฐ์สติเฟื่อง ที่มักจะสร้างสิ่งของประหลาดๆ ออกมา ด้วยความประหลาดของพ่อ ทำให้ไม่ค่อยมีใครเข้ามาข้องแวะกับบ้านของสองพ่อลูกนี้มากนัก จะมีก็แต่ Gaston หนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ที่หมายปองหญิงสาวอยู่ แต่เธอก็ไม่ชอบนิสัยใจคอของเขานัก ชีวิตประจำวันในหมู่บ้านของเธอผ่านไปอย่างเรียบง่าย จนกระทั่งเธอได้พบกับอสูรร้ายและเข้าไปอาศัยอยู่ในปราสาทของเขา
ก่อนจะเป็นอสูรร้าย เขาเคยเป็นเจ้าชายหนุ่มรูปงาม เจ้าของปราสาทอันหรูหรา แต่ด้วยจิตใจอันคับแคบ เย็นชา เต็มไปด้วยความเหย่อหยิ่ง ไม่เห็นใจผู้ใด ทำให้เขาต้องคำสาปกลายร่างเป็นอสูรร้ายหน้าตาอัปลักษณ์ รวมถึงทุกคนที่อยู่ในปราสาทก็กลายเป็นสิ่งของเครื่องใช้อื่นๆ และจะสามารถหลุดพ้นจากคำสาปนี้ได้ด้วยการทำให้หัวใจได้สัมผัสถึงรักแท้จากหญิงสาวที่จะสามารถเปลี่ยนอสูรร้ายให้กลับมาเป็นเจ้าชายรูปงามอีกครั้ง แต่อสูรร้ายต้องรีบหาทางแก้คำสาปนี้ให้ได้ก่อนกลีบกุหลาบ กลีบสุดท้ายจะร่วงหล่นลงในวันเกิดปีที่ 20 ของเขา
ชายหนุ่มผู้สุดแสนจะเพอร์เฟคที่สุดของหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาที่ดูดีดึงดูดใจสาวๆ ไหนจะฐานะร่ำรวยเหลือกินเหลือใช้ แล้วยังจะคำหวานที่ไม่เคยหายไปจากปากของเขาเลย ทำให้ชายหนุ่มกลายเป็นชายหนุ่มที่ฮอตที่สุดในหมู่บ้าน สาวๆ บ้านไหนต่างก็มองเขาตาละห้อย พร้อมทอดสะพานให้เขาเสมอ ยกเว้นก็แต่ Belle สาวงามนิสัยประหลาดที่แม้เขาจะเพียรหยอดคำหวานเท่าใดก็ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยใยดีด้วย แต่ชายหนุ่มก็ยังมั่นใจว่าตนเองนี่แหละเหมาะสม และคู่ควรกับ Belle มากที่สุด
พ่อของ Belle เขาเป็นสุดยอดนักประดิษฐ์และช่างประจำหมู่บ้าน มักจะสร้างเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ออกมาเสมอเพื่อช่วยผ่อนแรงในการทำงานบ้านของลูกสาวและตนเอง ใครๆ ในหมู่บ้านต่างก็มองว่าเขาเป็นชายแก่ที่ไม่ค่อยจะอยู่กับร่องกับรอยสักเท่าไหร่ และเมื่อวันหนึ่งเขาหลงเข้าไปในปราสาทลึกลับกลางป่าแล้วพบเข้ากับอสูรร้าย กลายเป็นสาเหตุให้ลูกสาวของตนเองต้องมาพบเจอกับเรื่องราวที่ไม่คาดคิดมาก่อน
ลูกน้องคนสนิทของ Gaston ที่เขาคิดไปเองคนเดียวว่าตัวเองนั้นเป็นเพื่อนรักของชายหนุ่มจอมโอ้อวดคนนั้น Le Fou มักจะตามติด Gaston ไปทุกหนทุกแห่งและไม่ว่าจะถูกใช้ให้ทำอะไรเขาก็มักจะทำตามคำสั่งของเพื่อนอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าจะถูกด่าว่าหรือถูกกลั่นแกล้งแต่เขาก็ยังพร้อมยืนหยัดอยู่เคียงข้าง Gaston แต่มีสิ่งเดียวที่เขาไม่เข้าใจก็คือ ทำไมเพื่อนของเขาถึงได้มั่นใจนักว่า Belle จะยอมตกลงแต่งงานด้วย
พี่เลี้ยงของเจ้าชายหนุ่ม ที่ต้องคำสาปกลายมาเป็นเชิงเทียน แต่เขาก็ยังคงทำหน้าที่พี่เลี้ยงของอสูรร้ายอย่างต่อเนื่อง และในบางครั้งเขาก็ฝ่าฝืนคำสั่งหรือแอบไม่ทำตามคำสั่งจากอสูรร้ายหลายครั้ง และการขัดคำสั่งครั้งสำคัญก็คือการยอมให้ Maurice เข้ามาหลบภัยภายในปราสาท เป็นไม้เบื่อไม้เมากับ Cogsworth ทั้งสองคนมักจะหาเรื่องทะเลาะกันอย่างสม่ำเสมอ แต่มีเรื่องของ Belle เพียงเรื่องเดียวที่ทั้งสองคนเห็นตรงกันว่าเธอคือหญิงสาวผู้ที่จะก้าวเข้ามาแก้คำสาปนี้ได้ ทั้งสองคนจึงเกลี้ยกล่อมให้หญิงสาวอยู่ที่ปราสาทแทนพ่อของเธอ และเป็นเขาเองที่เสนอให้อสูรมอบห้องสมุดในปราสาทเป็นของขวัญให้กับ Belle เพื่อเป็นการขอบคุณหญิงสาว
ขุนนางผู้ใหญ่ผู้คอยดูแลและให้คำปรึกษากับเจ้าชายหนุ่ม เมื่อต้องคำสาปเขาได้กลายมาเป็นนาฬิกาลูกตุ้มที่ยังคงนิสัยซื่อตรงแน่วแน่เหมือนตอนเป็นมนุษย์ เป็นคู่กัดตลอดกาลกับเชิงเทียน เพราะเขามักจะคอยห้ามปรามไม่ให้เชิงเทียนขัดคำสั่งของอสูรอยู่เสมอ และพยายามขัดขวางไม่ให้รับพ่อของ Belle เข้ามาในปราสาท แต่เมื่อ Belle คือความหวังสุดท้ายในการแก้คำสาป ท่านนาฬิกาผู้เที่ยงตรงจึงขอลองเสี่ยงเดิมพันให้หญิงสาวมาอยู่ในปราสาทดูสักครั้ง รวมถึงร่วมวางแผนให้ทั้งอสูรและ Belle ได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น พร้อมทั้งคอยเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจให้กับอสูรร้ายอีกด้วย
หัวหน้าห้องเครื่องที่ต้องคำสาปกลายมาเป็นกาน้ำชา พร้อมกับลูกชายตัวน้อยที่กลายมาเป็นแก้วในชุดน้ำชาอย่างช่วยไม่ได้ เธอเป็นคนที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ อ่อนโยนและน่ารักคนหนึ่งในปราสาท และเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาหลบภัยภายในปราสาท Mrs. Potts ก็ต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดีโดยการเตรียมน้ำชาเพื่อให้ความอบอุ่นกับเขาทันที และหลังจากที่ Belle ได้เข้ามาอยู่ในปราสาทแล้ว เธอและลูกชายก็คอยเข้ามาพูดคุยและอยู่เป็นเพื่อนเพื่อให้หญิงสาวรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น
นักร้องโอเปร่าเสียงดีของปราสาทแห่งนี้ ที่ต้องคำสาปให้กลายไปเป็นตู้เสื้อผ้าอย่างน่าเสียดาย แต่เธอก็ยังคงความสามารถด้านการร้องเพลงและเสียงอันไพเราะของเธอเอาไว้ได้อยู่ แต่น่าเสียดายที่อสูรไม่ชอบงานรื่นเริง เสียงร้องของเธอจึงกลายเป็นสิ่งต้องห้ามในปราสาทอันเงียบเหงาแห่งนี้ จนกระทั่ง Belle ได้ก้าวเข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เธอจึงมีโอกาสได้เอื้อนเอ่ยทำนองเพลงรักอีกครั้ง
สาวใช้ในปราสาทที่ถูกคำสาปเปลี่ยนให้เป็นแปรงทำความสะอาด คอยดูแลทำความสะอาดปราสาทเหมือนเมื่อตอนยังเป็นมนุษย์ เธอเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่พยายามให้ Belle และเจ้าชายอสูรของพวกเธอได้พบกับความรักที่แท้จริง และคอยทำทุกอย่างเพื่อให้ทั้งสองคนได้ใกล้ชิดกัน
Adrian Schiller รับบทเป็น Monsieur D’Arque
เจ้าของโรงพยาบาลที่ถูก Gaston ติดสินบนให้เขาไปข่มขู่ Belle ให้ตอบตกลงแต่งงานกับ Gaston เพราะไม่อย่างนั้นพ่อของ Belle จะถูกจับส่งมาที่โรงพยาบาลของเขา เพราะชาวบ้านทุกคนต่างก็เห็นพ้องเป็นเสียงเดียวกันว่าพ่อของหญิงสาวนั้นมีอาการแปลกประหลาดและชอบทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อชุมชน
นางฟ้าผู้เป็นเจ้าของคำสาปที่เปลี่ยนให้เจ้าชายหนุ่มรูปงามกลายเป็นอสูรหน้าตาอัปลักษณ์ พร้อมด้วยเหล่าข้ารับใช้ให้กลายเป็นสิ่งของต่างๆ รวมถึงเปลี่ยนปราสาทหลังงามให้กลายเป็นปราสาทรกร้างน่ากลัวกลางป่าลึก เธอได้ไปปรากฏตัวในร่างของหญิงแก่คนหนึ่งที่หน้าปราสาทในค่ำคืนแห่งงานเลี้ยงวันคริสต์มาสของเจ้าชาย หญิงแก่ขอแลกกุหลาบงามในมือกับที่พักหลบภัยหนาวหนึ่งคืน แต่เจ้าชายกลับปฏิเสธและไล่หญิงแก่ออกไปไม่ให้เข้ามาในปราสาท ด้วยความไร้น้ำใจและเย็นชาของเจ้าชายนี้เอง ทำให้หญิงแก่กลายร่างกลับไปเป็นนางฟ้า และสาปให้เจ้าชายกลายเป็นอสูรร้ายหน้าตาอัปลักษณ์ รวมถึงทุกคนในปราสาทให้กลายเป็นสิ่งของเครื่องใช้ และหนทางเดียวที่จะแก้คำสาปของเธอได้ คือหัวใจของอสูรร้ายต้องเรียนรู้และสัมผัสถึงรักแท้ที่ไม่หวังสิ่งใดๆ ตอบแทน เพื่อที่เจ้าชายหนุ่มจะได้เรียนรู้ถึงการแบ่งปันและเห็นแก่เพื่อนมนุษย์ แต่รักแท้นั้นจะต้องเกิดก่อนกลีบกุหลาบกลีบสุดท้ายจะร่วงหล่นลง
ผลงานที่ผ่านมาของผู้กำกับ “Bill Condon”
Bill Condon คือผู้กำกับและนักเขียนบทที่อยู่ในวงการฮอลลีวูดมาอย่างยาวนานและมีผลงานอันโดดเด่นมากมายหลายเรื่อง นอกจากนั้นเขาเองก็มีความสนใจในงานภาพยนตร์เพลงและได้ทั้งเคยกำกับและเขียนบทภาพยนตร์ในแนวนี้มาหลายเรื่อง เราขอแนะนำผลงานที่โดดเด่นของผู้กำกับคนนี้ให้คุณได้รู้จักกัน
Gods and Monsters (1998)
ในเรื่องนี้ Bill Condon รับหน้าที่ทั้งการเขียนบทและการกำกับ เป็นเรื่องราวของ James Whale ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง Frankenstein (1931) และ Bride of Frankenstein (1935) เรื่องราวของเขาดำเนินอยู่ในช่วงเวลาสงครามเกาหลี ในยุคซึ่งการรักเพศเดียวกันยังคงเป็นสิ่งที่สังคมรังเกียจ ความรักของ James Whale จึงต้องดำเนินไปอย่างหลบๆ ซ่อนๆ และท้ายที่สุดแล้วเขาจะตัดสินใจจบเรื่องราวนี้อย่างไร ภาพยนตร์เรื่องนี้ชนะรางวัลออสการ์ในสาขา Best Adapted Screenplay และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมและนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมอีกด้วย
Chicago (2002)
และมาถึงภาพยนตร์เพลงชื่อดังเรื่องนี้ที่ Bill Condon รับหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์ โดย Chicago คือเรื่องราวของความอิจฉาริษยา ฆาตกรรม กลโกง เรื่องอื้อฉาวของเหล่าผู้คนในวงสังคมชั้นสูงของเมืองนี้ โดยมีดนตรีแจ๊สและความหรูหราฟู่ฟ่าของเมืองเป็นฉากหลัง ซึ่งเรื่องนี้ก็ชนะรางวัลออสการ์ไปถึง 6 สาขาในปี 2003
Kinsey (2004)
ภาพยนตร์ชีวประวัติของ Alfred Kinsey นักวิจัยชื่อดังที่มีผลงานด้านพฤติกรรมทางเพศของมนุษย์ โดยผลงานวิจัยอันโด่งดังของเขาในชื่อ “Sexual Behavior in the Human Male” ซึ่งตีพิมพ์ในปี 1948 ผู้กำกับ Bill Condon ที่ทั้งกำกับและเขียนบทในเรื่องนี้จะพาเราไปดูเบื้องลึกเบื้องหลังกว่าจะมาเป็นงานวิจัยอันโด่งดังไปทั่วโลกชิ้นนี้
DreamGirls (2006)
และกลับมาที่ผลงานด้านภาพยนตร์เพลงอีกครั้งกับการนำเรื่องราวของกลุ่มนักร้องสาวผิวดำ ที่ฝ่าฟันต่อสู้เพื่อฝันในการเป็นนักร้อง R&B ในยุค 60s จนถึง 70s พวกเธอต้องต่อสู้กับการเหยียดสีผิวและการไม่ยอมรับจากชาวอเมริกันผิวขาวในสังคม แต่เพราะความพยายามและความสามารถของพวกเธอ ทำให้ในที่สุดพวกเธอก็สามารถไปยืนอยู่บนเวทีได้อย่างสง่างาม และเช่นเคยที่ Bill Condon ทำหน้าที่ทั้งกำกับและเขียนบทอีกครั้ง และพาเรื่องนี้คว้ารางวัลออสการ์ไปได้ถึง 2 รางวัลในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม และกำกับเสียงยอดเยี่ยม นอกจากนั้นยังสามารถคว้ารางวัลจากเวทีอื่นๆ ไปได้ถึง 66 รางวัล
The Twilight Saga: Breaking Dawn – Part 1 & 2
มาถึงผลงานภาพยนตร์สุดฮิตที่หลายคนรู้จักเรื่องนี้ ที่ Bill Condon มารับหน้าที่กำกับและเขียนบทในภาคสุดท้ายนี้ ซึ่งเป็นศึกสุดท้ายที่ทั้งครอบครัวแวมไพร์คัลเลนและฝูงหมาป่าของเจคอบจะต้องร่วมมือกันในการต่อสู้กับตระกูลวัลตูรี แวมไพร์ตระกูลเก่าแก่และเต็มไปด้วยอำนาจที่หวังจะกำจัดตระกูลคัลเลนให้พ้นทางของพวกเขาไป
ดูจากผลงานที่ผ่านมาของผู้กำกับคนนี้แล้ว แฟนๆ ของ “Beauty and the Beast :โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” ก็คงจะมั่นใจได้ว่าเทพนิยายเรื่องสุดคลาสสิคเรื่องนี้จะต้องถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างสวยงามและน่าประทับใจอย่างแน่นอน เพราะงานนี้นอกจากผู้กำกับมากความสามารถคนนี้แล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีเหล่านักแสดงคุณภาพที่ตบเท้าเข้าร่วมแสดงในเรื่องกันอย่างคับคั่ง ร่วมเดินทางไปยังปราสาทต้องคำสาปแห่งนี้กันได้ใน “Beauty and the Beast :โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” 16 มีนาคม 2560 นี้ในโรงภาพยนตร์
เพลงประกอบภาพยนตร์“Beauty and the Beast :โฉมงามกับเจ้าชายอสูร”
อย่างที่เรารู้กันดีว่า “Beauty and the Beast :โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” นี้คือเรื่องราวสุดคลาสสิคของสตูดิโอ Disney ที่ถูกสร้างเป็นแอนิเมชั่นมาตั้งแต่ปี 1991 และในฉบับ live action ปี 2017 นี้เพลงประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ของเรื่องนี้ก็ยังคงนำมาจากต้นฉบับในปี 1991 อยู่ โดยเพลงทั้งหมดในเรื่องนี้ถูกสร้างสรรค์โดย Howard Ashman และ Tim Rice โดยมีทั้งหมด 24 เพลงด้วยกัน ดังนี้
No. | ชื่อเพลง | ศิลปิน | ความยาว |
1. | “Overture” (Score) | Alan Menken | 3:05 |
2. | “Main Title: Prologue, Pt. 1” (Score) | Alan Menken | 0:42 |
3. | “Aria” (Original Song) | Audra McDonald | 1:02 |
4. | “Main Title: Prologue, Pt. 2” (Score) | Alan Menken | 2:21 |
5. | “Belle” | Emma Watson, Luke Evans, คณะนักแสดง | 5:33 |
6. | “How Does a Moment Last Forever (Music Box)” (Original Song) | Kevin Kline | 1:03 |
7. | “Belle” (Reprise) | Emma Watson | 1:15 |
8. | “Gaston” | Evans, Josh Gad, คณะนักแสดง | 4:25 |
9. | “Be Our Guest” | Ewan McGregor, Emma Thompson, Gugu Mbatha-Raw & Ian McKellen | 4:48 |
10. | “Days in the Sun” (Original Song) | Adam Mitchell, Stanley Tucci, McGregor, McKellen, Thompson, Watson, McDonald, Clive Rowe | 2:40 |
11. | “Something There” | Emma Watson, Dan Stevens, Emma Thompson, Nathan Mack, Ian McKellen, Ewan McGregor, Mbatha-Raw | 2:54 |
12. | “How Does a Moment Last Forever (Montmartre)” | Emma Watson | 1:55 |
13. | “Beauty and the Beast” | Emma Thompson | 3:19 |
14. | “Evermore” (Original Song) | Dan Stevens | 3:14 |
15. | “The Mob Song” | Evans, Gad, Ensemble, Thompson, McKellen, Tucci, Mack, Mbatha-Raw, McGregor | 2:28 |
16. | “Beauty and the Beast” (Finale) | Watson, McDonald, Thompson, Ensemble | 2:14 |
17. | “How Does a Moment Last Forever” (Original Song) | Celine Dion | 3:37 |
18. | “Beauty and the Beast” (Duet) | Ariana Grande & John Legend | 3:47 |
19. | “Evermore” (Original Song) | Josh Groban | 3:09 |
20. | “Aria” (Demo) | Menken | 0:36 |
21. | “How Does a Moment Last Forever” (Demo) | Menken | 0:59 |
22. | “Days in the Sun” (Demo) | Menken | 3:30 |
23. | “How Does a Moment Last Forever” (Demo) | Menken | 1:21 |
24. | “Evermore” (Demo) | Menken | 2:55 |
สำหรับดูหนังเรื่อง Beauty and the Beast ถือได้ว่าเป็นหนังที่น่าดูมาก และเป็นหนังที่น่าจับตามองแห่งปี 2017 ยังไงต้องติดตามดูหนัง Beauty and the Beast ปาฏิหาริย์รักเทพบุตรอสูร เต็มเรื่องแบบ HD