ปีใหม่จะเหงาได้ไง? ถ้า GDH กล้าส่งหนังฟอร์มยักษ์มาชนโรงช่วงธันวาคมแบบนี้ แสดงว่า “ของ” ต้องมี แล้วยิ่งเห็นชื่อผู้กำกับอย่าง “เติ้ล-กิตติภัค” ที่เคยพาเราไปขำจนปวดท้องน้อยมาแล้วใน ตุ๊ดซี่ส์ & เดอะเฟค กลับมาคราวนี้ไม่ได้มาเล่นๆ แต่มาพร้อมสเกล “มิวสิคัล” ที่วงการหนังไทยไม่ได้ทำกันบ่อยๆ บรรยากาศช่วงท้ายปีแบบนี้ ถ้าใครกำลังมองหาลิสต์กิจกรรมไว้นัดแก๊งเพื่อนไป ดูหนัง ข้ามปี บอกเลยว่าเรื่องนี้คือตัวเต็งที่น่าจับตามองที่สุด เพราะมันไม่ใช่แค่หนังตลกคาเฟ่ แต่มันคือสงครามศักดิ์ศรีของคนสองเจนเนอเรชัน!
เรื่องย่อ ดีว่า..ราวี ฉบับคนวงใน (แบบไม่สปอยล์จุดพีค)
เรื่องมันเริ่มที่ความพังพินาศของ “ปลายฝัน มาร์กาเรต เฮง” (รับบทโดย แจ็คกี้ ชาเคอลีน) อดีตตัวแม่ระดับดีว่าเจ้าของยอดขายเทปสองล้านตลับในยุค 90 ที่เลือกทิ้งวงการไปนานถึง 7 ปี เพื่อไปบูชาความรัก แต่พอกลับมาอีกที… ความรักก็กินไม่ได้ แถมเงินก็กำลังจะหมด! ทางรอดเดียวของเธอคือการจัด “คอนเสิร์ตคัมแบ็ก” เพื่อทวงคืนแสงสปอตไลท์
แต่วงการบันเทิงปี 2025 มันไม่ได้หมูเหมือนยุค 90 เพราะเวทีนี้ไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว ปลายฝันต้องมาเจอกับ “แก๊งตาคลี” (รับบทโดย ปิงปอง, นุนิว, นินิว) กลุ่มไอดอล Gen Z ปากแจ๋ว ที่ยอดเอนเกจเมนต์พุ่งทะลุเพดาน การร่วมงานกันครั้งนี้เลยไม่ใช่การ “ฟีเจอริ่ง” สวยหรู แต่เป็นสมรภูมิ “แย่งแสง” ที่ฟาดฟันกันยับเยินตั้งแต่งานแถลงข่าวยันหลังเวที ใครจะอยู่ ใครจะไป หรือคอนเสิร์ตนี้จะล่มไม่เป็นท่า ต้องไปลุ้นกันเอาเอง
วิเคราะห์ความน่าดูของ ดีว่า..ราวี เมื่อสงครามไมค์เดือดกว่าที่คิด
สิ่งที่ทำให้ผมนั่งไม่ติดเก้าอี้ตอนดูตัวอย่าง ไม่ใช่แค่มุกตลกโปกฮา (ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าปิงปองเอาอยู่) แต่คือ “โปรดักชันดีไซน์” ครับ เรื่องนี้ GDH จับมือกับ Universal Music Thailand นั่นหมายความว่าพาร์ทเพลงและโชว์บนเวทีที่เราจะได้เห็นในโรง จะถูกเนรมิตขึ้นมาแบบ เต็มเรื่อง ทั้งแสง สี เสียง และท่าเต้น ไม่ใช่แค่ฉากลิปซิงค์ไก่กาแน่นอน
อีกจุดที่น่าสนใจคือ “เคมีนักแสดง” การเอา แจ็คกี้ ที่เป็นไวรัลตัวแม่ในชีวิตจริง มาปะทะกับ นุนิว ที่เป็นเจ้าพ่อเทรนด์ทวิตเตอร์ (X) มันคือการ Casting ที่ฉลาดมาก มันสะท้อนภาพจริงของวงการบันเทิงไทยยุคนี้ที่ “ความเก๋า” ต้องมางัดข้อกับ “กระแส” ใครที่เป็นสายเสพงานภาพสวยๆ หรือชอบดูโชว์อลังการน่าจะถูกจริต เพราะผู้กำกับบอกเองว่าแก้บทกันหัวหมุนเพื่อให้บาลานซ์ระหว่างความฮาและดราม่าออกมากลมกล่อมที่สุด ไม่ให้ดูเป็นการเหยียดฝั่งไหน แต่เป็นการแซะวัฒนธรรมแฟนด้อมที่เจ็บจี๊ดๆ แสบๆ คันๆ
เจาะลึกเกร็ดเบื้องหลัง ดีว่า..ราวี ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
เพื่อให้สมกับเป็นแฟนตัวยงของ onlygroub.com ผมไปขุดเกร็ดหลังกล้องมาฝากกัน 4 ข้อเน้นๆ ที่จะทำให้คุณดูหนังเรื่องนี้สนุกขึ้น:
- ชื่อเดิมที่เกือบไม่ได้ใช้: รู้หรือไม่ว่าก่อนจะมาเป็นชื่อเท่ๆ อย่าง ดีว่า..ราวี โปรเจกต์นี้เคยใช้ชื่อระหว่างการพัฒนา (Working Title) ว่า “Beauty and the Beat (บิวตีแอนด์เดอะบีท)” มาก่อน ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้ในไลน์อัป GDH Look Forward 2025 แต่สุดท้ายทีมงานคงเห็นว่าชื่อไทยๆ อย่าง “ราวี” นี่แหละ สื่อถึงความวุ่นวายและสงครามประสาทได้เห็นภาพชัดกว่า
- คอนเสิร์ตที่ “สมจริง” ที่สุด: ความยากของเรื่องนี้คือการถ่ายทำฉากคอนเสิร์ต ผู้กำกับเติ้ลต้องการให้คนดูรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในฮอลล์จริงๆ ไม่ใช่แค่ดูหนัง ทีมงานเลยต้องเซตระบบไลท์ติ้งและเวทีสเกลเดียวกับคอนเสิร์ตจริง และใช้นักแสดงสมทบ (Extras) จำนวนมหาศาลเพื่อสร้างบรรยากาศ “แฟนด้อม” ตีกันให้สมจริงที่สุด ใครที่ชอบฟีลลิ่งคอนเสิร์ตน่าจะได้เสพงานศิลป์แบบ เต็มเรื่อง จุใจแน่นอน
- การรวมตัวของ “ตัวจริง” นอกบท: นอกจากนักแสดงหลักแล้ว หนังยังดึง “ตัวแม่ยุค 90” ตัวจริงเสียงจริงอย่าง “ทาทา ยัง” มารับบทคู่ปรับตลอดกาลของนางเอก และ “ครูอ้วน มณีนุช” มาเสริมทัพ ซึ่งการมีอยู่ของพวกเธอไม่ใช่แค่ Cameo ขำๆ แต่เป็นสัญลักษณ์ที่ตอกย้ำธีม “ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป” ให้มีน้ำหนักมากขึ้น
- บทที่ต้อง “รีไรต์” เพื่อความเท่าเทียม: เบื้องหลังการทำงานที่หินที่สุด คือการเขียนบทให้มุกตลกไม่ไป “บูลลี่” ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง โจทย์คือต้องทำให้คน Gen X หัวเราะได้โดยไม่รู้สึกว่าเด็กก้าวร้าว และต้องทำให้ Gen Z ขำได้โดยไม่รู้สึกว่าผู้ใหญ่คร่ำครึ การปรับจูนบทสนทนาตรงนี้ใช้เวลานานมาก เพื่อให้หนังเป็นพื้นที่ตรงกลางที่ทุกคนมาสนุกร่วมกันได้
FAQ: ตอบคำถามคาใจก่อนตีตั๋ว
- Q: ไม่เคยดูผลงานเก่าๆ ของ GDH หรือซีรีส์ตุ๊ดซี่ส์มาก่อน จะดูรู้เรื่องไหม?
- A: ดูรู้เรื่อง 100% ครับ ดีว่า..ราวี เป็นหนัง Standalone เนื้อเรื่องใหม่ ตัวละครใหม่ ไม่ได้อยู่ในจักรวาลเดียวกับตุ๊ดซี่ส์ฯ แค่ได้ผู้กำกับและนักแสดงทีมเดิมบางคนมาร่วมงานเฉยๆ
- Q: เหมาะจะพาครอบครัวหรือเด็กๆ ไปดูไหม?
- A: หนังได้เรต 13+ ครับ แม้จะไม่มีฉากโป๊เปลือยหรือรุนแรงเลือดสาด แต่เนื้อหาเน้นการ “ฟาดฝีปาก” มีคำด่าแซ่บๆ สไตล์กะเทยเพื่อนสาว และดราม่าวงการบันเทิงที่เด็กเล็กอาจจะไม่เก็ทมุก แนะนำว่าถ้าลูกหลานเริ่มโตเป็นวัยรุ่นแล้วน่าจะสนุกด้วยกันได้
- Q: มี End Credit ไหม?
- A: ตามธรรมเนียม GDH และหนังสไตล์นี้ มักจะมีฉากพิเศษ หรือ Blooper ฮาๆ แทรกมาระหว่างเครดิตช่วงแรกครับ แนะนำว่าอย่าเพิ่งรีบลุก รอดูสักนิดเผื่อมีเซอร์ไพรส์ แต่ถ้าหวัง Post-credit ปูจักรวาลมาร์เวล… อันนั้นไม่มีนะจ๊ะ
เอาเป็นว่า 10 ธันวานี้ เคลียร์คิวให้ว่าง แล้วชวนเพื่อนสาว หรือคนรู้ใจไป ดูหนัง เรื่องนี้กันในโรงภาพยนตร์เถอะครับ สนับสนุนหนังไทยที่ตั้งใจทำโปรดักชันดีๆ แบบนี้ ให้อยู่คู่บ้านเราไปนานๆ ส่วนใครดูจบแล้วอิน หรือมีจุดสังเกตอะไรเด็ดๆ อยากเม้าท์ต่อ แวะกลับมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ที่ onlygroub.com พื้นที่ของคนรักหนังตัวจริง ที่เราคัดสรรมาให้คุณ “อิน” กว่าใคร!
สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้น่าจับตามองที่สุด ไม่ใช่แค่การขนทัพนักแสดงตัวจี๊ดอย่าง แจ็คกี้, ปิงปอง และนุนิว มาเจอกัน แต่คือความกล้าของ GDH ที่ยกระดับหนังตลกให้กลายเป็น “มิวสิคัล” เต็มรูปแบบ การดึง Universal Music Thailand มาร่วมทุนทำให้ทุกโชว์บนเวทีใน ดีว่า..ราวี มีความสมจริงระดับคอนเสิร์ตสเกลใหญ่ ทั้งระบบแสง สี และท่าเต้นที่ผ่านการดีไซน์มาอย่างดี เพื่อให้คนดูได้เสพทั้งความบันเทิงและงานศิลป์ไปพร้อมกัน
นอกจากความฮา เบื้องลึกคือการสะท้อนภาพ “Culture Clash” ระหว่างคนบันเทิงยุคเก่าที่เน้นฝีมือ กับวัฒนธรรมแฟนด้อมยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเอนเกจเมนต์ ผู้กำกับเติ้ล-กิตติภัค ปรุงรสออกมาได้แสบสันแต่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหมุดหมายสำคัญส่งท้ายปีที่พิสูจน์ให้เห็นว่า หนังตลกไทยสามารถไปได้ไกลกว่าแค่การรวมมุกคาเฟ่ แต่สามารถวิพากษ์สังคมบันเทิงได้อย่างมีชั้นเชิง
