เร็วทะลุเร็ว อภิมหาหนังแอ็คชั่นผลงานสุดท้ายของสุดยอดปรมาจารย์คิวบู๊อันดับหนึ่งของเมืองไทยผู้ล่วงลับ“พันนา ฤทธิไกร“ที่จะมาสร้างสรรค์ผลงานหนังบู๊สัญชาติไทย เร็วท้าทุกความระห่ำ แรงกระหน่ำทะลุขีดความตาย นำแสดงโดย“เดี่ยว-ชูพงษ์ ช่างปรุง”ศิษย์เอกที่สองจากการปลุกปั้น สหมงคลฟิล์ม และนาฟิล์มภูมิใจนำเสนอ เร็วทะลุเร็ว เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ นที(นำแสดงโดย เดี่ยว – ชูพงษ์ ช่างปรุง)ชายหนุ่มที่สูญเสียพ่อและแม่จากการถูกรอบสังหาร ทำให้นทียอมและทุกอย่างแม้แต่ชีวิตของเขาเองและความสัมพันธ์ระหว่างนทีและธาร(นำแสดงโดย วุฒิ – นันทวุฒิ บุญรับทรัพย์)น้องชายแท้ๆของนที ด้วยพรสวรรค์ทำให้นทีเป็นมือปืนชั้นดีด้วยเวลาอันสั้น วันหนึ่งมีคำสั่งให้นทีไปปกป้อง”พลอย“(นำแสดงโดย เมย์ – นิศาชล ต้วมสูงเนิน) จากการถูกลอบสังหาร เมื่อนทีสามารถช่วยพลอยได้สำเร็จและระหว่างช่วงเวลาอันสั้นทำให้เกิดความผูกพันระหว่างเขาและเธอขึ้น แต่แล้วโชคชะตาพลิกผลันมีคำสั่งให้นทีเก็บพลอย ทำให้เขาปฏิเสษคำสั้งนี้และเขาก็ถูกจัดฉากให้กลายเป็นแพะในคดีลักพาตัว และถูกตามล่าจากเหล่านักฆ่ามือดีมากมาย เขาจะร่วมมือกับธารเพื่อเอาชีวิตรอดจากเรื่องบ้าๆให้ได้ และต้องสือให้ได้ว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องพวกนี้ และมันเกี่ยวข้องกับการตายของพ่อ-แม่เขาหรือไม่ “จะสู้ให้ชนะ เราต้องเร็วกว่า แรงกว่า และ ระห่ำกว่า” 13 พฤศจิกายน มันส์ทุกโรงหนัง
*** อัพเดท (17/11/2014) ***
รีวิว เร็วทะลุเร็ว
จากผลงานสุดท้ายของผู้กำกับนักบู๊ตลอดกาล พันนา ฤทธิไกร นำมาสู่บทสรุปใหม่ของการต่อสู้และฉากเอฟเฟคมากมาย “เร็วทะลุเร็ว” โดยมีสองลูกศิษท์ ฝีมือฉมัง เดี่ยว ชูพงษ์ และ วุฒิ นันทวุฒิ นักบู๊หน้าใหม่ รวมถึงนักแสดงชั้นนำมากมายที่การันตรีการต่อสู้เอาไว้
ด้วยจากที่หนังไทยบ้านเรา วนเวียนอยู่กับหนังสไตล์นี้อยู่บ่อยๆ จนทำให้ผู้ชมเกือบทั้งประเทศค่อนข้างชินกับหนังแนวนี้ไปซะแล้ว รวมถึง เนื้อเรื่องก็ยังคงอยู่ในรูปแบบ หักเหลี่ยม เฉือนคม แก้แค้น เอาคืน อยู่อย่างนี้ซ้ำไปซ้ำมา ไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้แนวความคิดของผู้ชม เริ่มที่จะเดาทางได้แล้วว่า หนังเรื่องต่อไปจะเป็นอย่างไร ซึ่งเร็วทะลุเร็ว ก็เป็นหนังอย่างว่านั้นเอง
ความสนุกของหนัง ก็คงจะเป็นที่ต้องการของผู้ที่ชื่นชอบแนวต่อสู้เสี่ยงตายเหมือนอย่างเคย ซึ่งหนังเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าจะมีพล็อตเรื่องคล้ายๆกันกับหนังบู๊เก่าๆก็ตาม แต่ความแปลกใหม่ก็มีเข้ามาเสริมเพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นฉาก ต่อสู้กันบนตึกร้าง ที่มีท่วงท่าที่น่าสนใจ การต่อสู้กันบนรถไฟ ที่มีฉากเสี่ยงตายให้น่าลุ้น เป็นต้น โดยเอฟเฟคการระเบิดนั้น ก็เรียกได้ว่าอลังการงานสร้างพอสมควร แต่หนังเรื่องนี้ จะมีปนฉากเศร้า ร้องไห้เยอะหน่อย และที่แน่นอนไปกว่านั้นเลย คือ นักแสดงอาจจะยังหน้าใหม่กันอยู่ จึงทำอารมณ์ไม่เข้าถึงผู้ชมสักเท่าไหร่ เรียกง่ายๆก็คือ ทำให้ไม่ค่อยอินนั่นเอง
แต่ส่วนมากแล้ว ถ้าหนังไทยสไตล์นี้ อยากจะให้มันมีอะไรที่แปลกใหม่ไม่น่าเบื่อล่ะก็ เห็นทีควรจะจับทางและปรับเปลี่ยนแนวการดำเนินเรื่องให้ใหม่ซะดีกว่า รวมถึง CG บ้านเราอาจจะยังไม่ค่อยแข็งแรงมาก จึงต้องอาศัยแรงทุนและการเข้าถึงความสมจริงของ CG ให้มากกว่านี้ โดยสิ่งที่ขัดแย้งอย่างเห็นได้ชัดเลยคือ ฉากรถไฟที่รางรถไฟขาดจนเงยขึ้นมา แล้วรถไฟก็ลอยพุ่งขึ้นพร้อมกับระเบิดอันสวยงาม อันนี้ถือเป็นสิ่งที่เว่อมากๆสำหรับคนดู เพราะเป็นไปไม่ได้เลย ที่รถไฟจะเบาจนลอยได้ขนาดนั้น
คะแนนของหนังเรื่องนี้ 7/10
