หลังจากความเงียบงันยาวนานกว่าสองทศวรรษ จักรวาลภาพยนตร์สยองขวัญที่สร้างปรากฏการณ์อย่าง *28 Days Later* กลับมาโลดแล่นบนจอเงินอีกครั้ง ด้วยภาคต่อที่ชื่อว่า *28 Years Later* กำกับการแสดงโดย เดนนี่ บอยล์ และเขียนบทโดย อเล็กซ์ การ์แลนด์ คู่หูผู้สร้างปรากฏการณ์ครั้งก่อน กำหนดฉาย 20 มิถุนายน 2025 พร้อมตั้งเป้าเป็นจุดเริ่มต้นของไตรภาคใหม่ที่จะท้าทายขีดจำกัดความสยองขวัญอีกครั้ง
ครั้งนี้ ความน่าสนใจไม่ได้อยู่แค่เพียงการกลับมาของ ซีลเลียน เมอร์ฟี่ ในบท จิม ตัวละครสำคัญจากภาคแรก หรือทัพนักแสดงมากฝีมืออย่าง แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน, โจดี้ โคเมอร์ และ ราล์ฟ ไฟน์ส แต่ความลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง คือการเลือกให้ตัวละครหลักเป็นเด็กหนุ่มวัย 13 ปี ชื่อ แอลฟี่ ตามที่ แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน เปิดเผยในรายการ Mythical Kitchen
การเลือกเด็กหนุ่มเป็นตัวละครหลัก สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างจาก *28 Weeks Later* อย่างสิ้นเชิง แม้ว่าทั้งสองภาคจะมีตัวละครเด็กเป็นแกนหลัก แต่แอนดี้ แฮร์ริส จาก *28 Weeks Later* ยังมีโอกาสได้เห็นโลกก่อนเกิดการระบาด รู้จักความสงบสุขก่อนที่ไวรัส RAGE จะเปลี่ยนโลกให้กลายเป็นนรก ต่างจากแอลฟี่ ที่เติบโตมาท่ามกลางซากปรักหักพัง รู้จักโลกเพียงด้านเดียว ด้านที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความตาย นั่นคือความแตกต่างที่ชวนให้คาดเดาถึงพล็อตเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวและเข้มข้นยิ่งขึ้น
โปสเตอร์ภาพยนตร์ที่แฝงข้อความ *“เวลาเยียวยาอะไรไม่ได้”* และเบาะแสจากตัวอย่างภาพยนตร์ที่บ่งชี้ว่าเรื่องราวอาจเกิดขึ้นบนเกาะที่โดดเดี่ยว ยิ่งตอกย้ำความน่ากลัวของไวรัส RAGE ที่แม้จะผ่านไปถึง 30 ปี ภัยคุกคามยังคงอยู่ รอคอยการระเบิดความสยองขวัญครั้งใหม่
การกลับมาของ *28 Days Later* หลังจากเว้นช่วงยาวนาน อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย แต่ด้วยทีมงานเดิม นักแสดงคุณภาพ และไอเดียใหม่ที่น่าตื่นเต้น *28 Years Later* ก็น่าจะกลายเป็นปรากฏการณ์ทางจอเงินอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับคำถามที่ยังคงค้างคาใจ ว่า ความสยองขวัญในครั้งนี้ จะทวีความรุนแรงเพียงใด
ที่มา : screenrant.com