ทิโมธี ชาลาเมต์ นักแสดงหนุ่มมากความสามารถ ผู้โด่งดังจากบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง Dune อาจมีเส้นทางสู่ความสำเร็จที่แตกต่างออกไป หากเขาเลือกที่จะทำตามคำแนะนำของเอเจนต์ในช่วงเริ่มต้นอาชีพของเขา
ในบทสัมภาษณ์กับ Zane Lowe จาก Apple Music ชาลาเมต์ได้เปิดเผยว่า เขาเคยได้รับคำแนะนำจากเอเจนต์ให้เพิ่มน้ำหนัก เพื่อให้ได้บทในภาพยนตร์แนววัยรุ่น เช่น The Maze Runner หรือ Divergent
“ถ้าผมไปออดิชั่นสำหรับภาพยนตร์แนวนี้ คำติชมมักจะเป็นแบบว่า ‘คุณไม่มีรูปร่างแบบนั้น’ … เอเจนต์คนหนึ่งเคยโทรหาผมแล้วบอกว่า ‘คุณต้องเพิ่มน้ำหนัก'” ชาลาเมต์เล่า
อย่างไรก็ตาม ชาลาเมต์เลือกที่จะเดินหน้าตามแบบฉบับของนักแสดงแท้ๆ นั่นคือการแสดงฝีมืออย่างเต็มที่ และในที่สุดเขาก็คว้าบทนำในภาพยนตร์ระดับบล็อกบัสเตอร์อย่าง Dune และ Wonka โดยที่เขาไม่ได้ยึดติดกับแบบแผนของ “ฮีโร่ร่างกำยำ” ที่กำลังได้รับความนิยมในช่วงนั้น
การที่เขาเลือกที่จะเล่นบทบาทในภาพยนตร์ขนาดเล็ก อาทิ Lady Bird, Little Women และ Call Me By Your Name ทำให้ชาลาเมต์มีโอกาสแสดงความสามารถในการแสดงแบบอินดี้ ซึ่งต่างจากภาพลักษณ์ของนักแสดงฮอลลีวูดทั่วไป
ชาลาเมต์ได้กล่าวถึงประสบการณ์ของเขาในช่วงเริ่มต้นว่า “ภาพยนตร์เหล่านั้นมีทุนสร้างไม่สูง แต่เป็นภาพยนตร์ที่ทำให้ผมได้เรียนรู้ ได้พบจังหวะ ได้รับความมั่นใจ และได้สร้างสไตล์ของตัวเอง”
การเลือกเส้นทางของตัวเองนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นหนทางที่ประสบความสำเร็จ Dune ตอนที่หนึ่งและสองทำรายได้ทะลุพันล้านเหรียญทั่วโลก และภาพยนตร์ชีวประวัติของ Bob Dylan ที่ชาลาเมต์รับบทนำเรื่อง A Complete Unknown มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 25 ธันวาคม 2024
เรื่องราวของชาลาเมต์เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ความสำเร็จไม่ได้เกิดจากการทำตามแบบแผน แต่เกิดจากการตามหาเส้นทางของตัวเอง และแสดงความสามารถอย่างเต็มที่
ที่มา : movieweb.com
