ภาพยนตร์ภาคต่อของตำนานนักโบราณคดีผู้หาญกล้า *อินเดียน่า โจนส์* กลับมาอีกครั้งในปี 2023 หลังจากความเงียบงันนานกว่าทศวรรษ แฮร์ริสัน ฟอร์ด กลับมาสวมหมวกเฟโดราอีกครั้งใน *Indiana Jones and the Dial of Destiny* ภารกิจสุดท้ายของเขาเพื่อตามล่าหาสิ่งประดิษฐ์ลึกลับและพลังเหนือจินตนาการ แต่ทว่า…ผลตอบรับกลับไม่เป็นอย่างที่หวัง รายได้ทั่วโลกย่ำแย่ คำวิจารณ์ส่วนใหญ่ไม่ประทับใจ และความผิดหวังก็แผ่ขยายไปทั่ว
เจมส์ แมงโกลด์ ผู้กำกับผู้รับไม้ต่อจากสตีเวน สปีลเบิร์ก มองว่าปฏิกิริยาของผู้ชมนั้นไม่เป็นธรรม เขาเชื่อว่าผู้ชมยังไม่พร้อมจะยอมรับเรื่องราวที่ถูกเล่า และมีความคาดหวังที่แตกต่างออกไป “คุณมีนักแสดงผู้ยิ่งใหญ่ที่อายุแปดสิบกว่าปี ผมกำลังสร้างหนังเกี่ยวกับชายชราคนนี้ แต่ผู้ชมกลับไม่ต้องการเผชิญหน้ากับฮีโร่ในวัยนี้ ผมโอเคกับมันนะ เราทำหนังเสร็จแล้ว แต่คำถามคือ จะทำยังไงให้ผู้ชมพอใจนอกจากการเริ่มต้นใหม่กับนักแสดงคนอื่น?” เขาให้สัมภาษณ์กับ Deadline
แมงโกลด์ยอมรับว่าความรู้สึกของผู้ชมทำร้ายเขาเช่นกัน เพราะอินเดียน่า โจนส์ คือตัวละครในวัยเด็กที่เขานับถือ “แล้วจู่ๆ ฮีโร่ในวัยเด็กของผมก็มาอยู่ในชีวิตของผม บอกว่า ‘เรามีงานให้คุณทำ’ มันเป็นประสบการณ์ที่น่ายินดี แต่ก็เจ็บปวดเช่นกัน เพราะผมรักแฮร์ริสัน และอยากให้ผู้ชมรักเขาในแบบที่เขาเป็น ยอมรับว่านั่นคือส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้—ว่าทุกสิ่งมีจุดจบ นั่นคือส่วนหนึ่งของชีวิต”
สิ่งที่แมงโกลด์ทำถูกต้องคือการไม่พยายามเล่าเรื่องราวของอินดี้อย่างที่เคยทำใน *สงครามศักดิ์สิทธิ์* หรือ *อาณาจักรแห่งกะโหลกแก้ว* เขาย้ายฉากการผจญภัย (ยกเว้นฉากเปิดเรื่อง) ไปในช่วงปลายทศวรรษ 1960 ทำให้ภาพลักษณ์ของตัวละครเข้ากับวัยของฟอร์ดมากขึ้น แม้กลยุทธ์นี้จะได้ผลกับแฟนๆ บางส่วน แต่คำพูดของแมงโกลด์ก็ยังคงสะท้อนความจริง หลายคนไม่อยากเห็นฮีโร่ในวัยเด็กของพวกเขาแก่ลง
สำหรับผู้ที่ยังอยากเห็นอินดี้อย่างหนุ่มแน่น แต่ไม่ต้องการนักแสดงคนอื่น เกม *Indiana Jones and the Great Circle* อาจเป็นคำตอบ เกมวางฉากในปี 1937 นำเสนอการผจญภัยใหม่ มีคุณภาพเทียบเท่าไตรภาคดั้งเดิม พร้อมกับภาพลักษณ์ของอินดี้อย่างหนุ่มแน่น แม้การผจญภัยของอินดี บนจอเงินจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่ยังมีหนทางอื่นๆ ให้สำรวจต่อไป
ที่มา : movieweb.com
