หายนะบนผืนทรายแห่งเกียรติยศ: เมย์ คาลาไมวี่ หลุดจาก Gladiator 2 เพราะอะไรกันแน่?

หายนะบนผืนทรายแห่งเกียรติยศ: เมย์ คาลาไมวี่ หลุดจาก Gladiator 2 เพราะอะไรกันแน่?

กระแสวิพากษ์วิจารณ์ถาโถมไม่หยุดยั้ง! หลังจากที่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง *Gladiator 2* ตัดบทบาทของ เมย์ คาลาไมวี่ ออกจากฉบับฉายจริง ทำให้เกิดคำถามมากมายถึงสาเหตุเบื้องหลังความหายนะครั้งนี้ ผู้สร้างหนังออกมาเปิดเผยความจริงแล้ว แต่คำตอบนั้นชวนให้ทั้งใจหายและน่าเสียดายไม่น้อย

ภาพยนตร์ภาคต่อของ Gladiator ที่กำกับการแสดงโดย ริดลีย์ สก็อตต์ ซึ่งมี ลูเซียส เวรัส (รับบทโดย พอล เมสคัล) เป็นตัวเอกนั้น เคยมีการรายงานว่า คาลาไมวี่ จะมีบทบาทสำคัญ แต่สุดท้ายแล้ว บทของเธอกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งไว้เพียงความสงสัยและข้อถกเถียงในโลกออนไลน์ที่ร้อนระอุ

ดักลาส วิค โปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์ ให้สัมภาษณ์กับ The Hollywood Reporter ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า การตัดบทของคาลาไมวี่นั้นเป็นเพราะความจำเป็นทางด้านเวลา เนื่องจากความยาวของภาพยนตร์นั้นยาวเกินไป และจำเป็นต้องตัดบางส่วนออกเพื่อให้ได้ความยาวที่เหมาะสม “เราตัดฉากอำลาอันแสนอบอุ่นระหว่าง ลูซิลลา (รับบทโดย คอนนี่ นีลเซน) กับศพของ มาร์คัส (รับบทโดย เปโดร ปาสคาล) ออกไปด้วย” วิคกล่าว “มันเป็นเรื่องของการเลือกสิ่งที่สำคัญที่สุด”

คำอธิบายนี้ดูเหมือนจะยุติข้อสงสัยที่ว่าการตัดบทของคาลาไมวี่นั้นเกี่ยวข้องกับท่าทีทางการเมืองของเธอหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการคาดเดากันอย่างแพร่หลาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นเพียงการตัดสินใจเชิงสร้างสรรค์เพื่อให้ภาพยนตร์มีความยาวที่เหมาะสม ไม่ใช่การกลั่นแกล้งหรือการเซ็นเซอร์แต่อย่างใด

แม้ว่าจะน่าเสียดายที่เราจะไม่ได้เห็นคาลาไมวี่ใน *Gladiator 2* แต่การตัดบทออกจากภาพยนตร์นั้นเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็นการตัดฉากเล็กๆ หรือตัวละครทั้งตัว หากบทบาทนั้นไม่สอดคล้องกับโครงเรื่องหลัก หรืออาจเป็นเพราะว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นไปที่การดำเนินเรื่องของลูเซียส มาร์คิแนส และลูซิลลา เป็นหลัก จนไม่มีที่ว่างให้กับตัวละครอื่นๆ อีกทั้งช่วงการถ่ายทำที่ถูกหยุดชะงักเพราะการนัดหยุดงานในฮอลลีวู้ด ยิ่งทำให้จำเป็นต้องตัดต่อภาพยนตร์ให้สั้นลง จาก 4 ชั่วโมง เหลือเพียง 2 ชั่วโมง 20 นาที

ถึงแม้ว่าจะมีความพยายามคาดเดากันว่า คาลาไมวี่รับบทเป็นใคร ลูกสาวของ มาร์คิแนส หรือเป็นคนรักของลูเซียส แต่สุดท้ายแล้ว ก็ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลใดๆ เพิ่มเติม ทิ้งไว้เพียงความรู้สึกเสียดายและคำถามมากมาย ราวกับภาพยนตร์เรื่องนี้เองที่ทิ้งร่องรอยความลึกลับไว้ให้ผู้ชมได้ขบคิดต่อไป

เรื่องราวของ *Gladiator 2* จึงกลายเป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากและการตัดสินใจที่หนักอึ้งเบื้องหลังการสร้างภาพยนตร์ การตัดสินใจเพียงเล็กน้อย สามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ทั้งหมดได้ และบางครั้ง ความทรงจำที่สวยงาม ก็อาจถูกฝังกลบไว้ รอวันที่จะกลับมาปรากฏอีกครั้ง ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งก็ตาม

ที่มา : screenrant.com

ก่อนหน้า กัปตันอเมริกา: โลกใหม่แสนกล้าหาญ – ศึกชิงบัลลังก์ผู้พิทักษ์ดาวดวงใหม่
ถัดไป วัยหนุ่ม 2544 : เมื่อ “เป้ อารักษ์” พลิกบทบาทครั้งสำคัญ สู่โลกหลังกำแพง