ดูหนัง The Last Duel นำเสนอตัวเองเป็นปริศนาสามบท มันเหมือนกับการดู “A Man for All Seasons” ที่มี Monty Python พุ่งเข้ามา ภาพยนตร์เรื่องนี้เจ้าชู้และบางครั้งก็หลุดเข้าไปในชุดละครชุดฟุ่มเฟือย ทั้งสามเวอร์ชัน หากทำอย่างถูกต้อง จะรวมกันได้มากกว่าผลรวมของส่วนต่างๆ
หลังจากฉากการต่อสู้ที่ดุเดือดในช่วงแรก ๆ ที่ดุเดือด รวมไปถึงการดวลกันระหว่างคู่ต่อสู้ที่สาบานตนซึ่งสวมชุดเกราะหนักมาปะทะกันบนหลังม้า ต่างเหวี่ยงหอกของเขาไปมาก (ขออภัย อดใจไม่ไหว) “The Last Duel” ดูเหมือนว่าจะเป็นภาพยนตร์ดาบและเลือดในโคลน: หนึ่งในภาพยนตร์ปล้นที่โหดร้ายฉูดฉาด อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่กรณี แม้จะมีฉากแอ็คชั่นสั้น ๆ สองสามฉาก “The Last Duel” พิสูจน์ให้เห็นถึงความซับซ้อนที่ซับซ้อนและในบางครั้ง ละครยุคกลางที่น่าสนใจมาก การพรรณนาของนักแสดงแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นบุคคลที่มีสง่าราศีเช่นเดียวกับการดุอย่างชอบธรรม เขาเคยแสดงภาพพวกจิตวิปริตที่บูดบึ้งมาก่อน แต่ไม่เคยเป็นแบบนี้ เขาเป็นคนที่บังคับเอาจริงเอาจังมากจนต้องอยู่ภายใต้ตำแหน่งของเขาที่นี่
Jacques Le Gris ที่เล่นโดย Adam Driver มีเอลานที่เหมือนร็อคสตาร์เกี่ยวกับเขา แม้ว่า Damon และ Comer จะไม่แสดงท่าทางราวกับว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าเป็นการจัดเตรียมอย่างสุภาพเช่นข้อเสนอเชิงพาณิชย์ เราอยากรู้ว่าจะมีอารมณ์ระหว่างรอยร้าวหรือไม่ ในภาพยนตร์ The Last Duel โบช็องแสดงเป็นปิแอร์ เลอ กรีส ซึ่งได้รับมอบหมายจากเคาท์ปิแอร์ ดาลองซง ลูกพี่ลูกน้องของเขาให้เก็บหนี้จากการนับ แม้ว่าหนังจะถ่ายทำเมื่อ 600 ปีที่แล้ว แต่ “The Last Duel” เป็นละครเกี่ยวกับการเมืองธุรกิจ มันเกี่ยวกับการรู้มากพอที่จะไม่ทำให้ขนของเจ้านายสั่นคลอน ซึ่งคาร์รูจส์ทำผิดพลาดในความโกรธเคืองทางศีลธรรมของเขา ในกรณีของเลอ กริส เขาคิดแผนการอันแยบยลเพื่อบ่อนทำลายคู่หูของเขา ซึ่งเกี่ยวข้องกับภรรยาของเดอ คารูราย
The Last Duel เต็มเรื่องเป็นภาพยนตร์ที่พูดจาซับซ้อนซึ่งเกี่ยวกับรักสามเส้าที่แข่งขันกันและทำลายล้าง เป็นเรื่องแปลกเพราะขาดความชัดเจนอันน่าทึ่งของภาพยนตร์เก่า หากเรื่องราวนี้ถูกสร้างในฮอลลีวูดในช่วงระบบสตูดิโอ เราอาจเห็นเดอ การ์รูจส์ ชายหนุ่มผู้เสียสละที่อุทิศตนเพื่อจุดประกายให้กับภรรยาของเขา มีบางครั้งที่ดูเหมือนว่าภาพยนตร์เรื่องนั้น แต่เพียงชั่วครั้งชั่วคราว
มันเล่นกับความคิดที่จะนำเสนอโฉนดในลักษณะเดียวกับที่ “ราโชมง” ของคุโรซาวะทำ: ด้วยความคลุมเครืออย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามมันทำในลักษณะที่มันนั่งอยู่ที่นั่น ลมพัดออกจากใบเรือของหนังแล้ว ณ จุดนี้ แอฟเฟล็กแสดงการนับว่าเป็นพวกเสรีนิยมปากร้ายที่ชอบนอนกับผู้หญิงสี่คนในเวลาเดียวกัน ในลักษณะ “กลาดิเอเตอร์” แบบลูกโซ่ การดวลครั้งสุดท้ายจะต้องฟันฝ่าความตายอย่างแน่นอน แต่สำหรับภาพยนตร์ที่พยายามทำให้เราอยู่ในยุคกลาง การชมการเล่าเรื่องเป็นเรื่องน่าตกใจขึ้นอยู่กับความคิดที่ว่าผู้หญิงไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้เว้นแต่เธอจะมีเพศสัมพันธ์ที่น่าพอใจ
